เตือน 9 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมรับมือ “น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก-น้ำล้นตลิ่ง-น้ำท่วมขัง” ในช่วงวันที่ 14 – 15 ต.ค. นี้
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (279/2565) ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2565 เมื่อเวลา 17.00 น. แจ้งว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในคืนนี้
คาดว่า จะทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนกลางช่วงวันที่ 13 – 14 ตุลาคม 2565 ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 14 – 15 ตุลาคม 2565 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้น มีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 14 – 15 ตุลาคม 2565 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ดังนี้
1.จังหวัดมุกดาหาร
- อ.เมืองมุกดาหาร ดงหลวง หว้านใหญ่ และหนองสูง
2.จังหวัดกาฬสินธุ์
- อ.เมืองกาฬสินธุ์ สหัสขันธ์ หนองกรุงศรี ท่าคันโท ยางตลาด และฆ้องชัย
3.จังหวัดมหาสารคาม
- อ.เมืองมหาสารคาม โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และเชียงยืน
4.จังหวัดร้อยเอ็ด
- อ.เมืองร้อยเอ็ด เสลภูมิ จังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง และโพนทราย
5.จังหวัดยโสธร
- อ.เมืองยโสธร ค้อวัง มหาชนะชัย ป่าติ้ว และคำเขื่อนแก้ว
6.จังหวัดอำนาจเจริญ
- อ.เมืองอำนาจเจริญ ชานุมาน และเสนางคนิคม
7.จังหวัดสุรินทร์
- อ.เมืองสุรินทร์ ปราสาท พนมดงรัก จอมพระ ท่าตูม ชุมพลบุรี รัตนบุรี และสำโรงทาบ
8.จังหวัดศรีสะเกษ
- อ.เมืองศรีสะเกษ ขุนหาญ กันทรลักษ์ ราษีไศล ห้วยทับทัน อุทุมพรพิสัย กันทรารมย์ ยางชุมน้อย วังหิน ภูสิงห์ และน้ำเกลี้ยง
9.จังหวัดอุบลราชธานี
- อ.เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ นาจะหลวย นาเยีย น้ำขุ่น ดอนมดแดง สว่างวีระวงศ์ พิบูลมังสาหาร เขมราฐ เดชอุดม สำโรง เขื่องใน และตระการพืชผล
ทั้งนี้ กอปภ.ก. ได้ประสานแจ้งจังหวัดดังกล่าว และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวมถึงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิมที่มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
อีกทั้งหากมีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันที กรณีสถานการณ์ขยายวงกว้าง ให้จัดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการเข้าปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กลไกของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด หากทรัพยากรในจังหวัดพื้นที่รับผิดชอบไม่เพียงพอ ให้ประสานขอรับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียง เพื่อให้การปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยเป็นไปอย่างคล่องตัว
สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดโดยผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วในพื้นที่น้ำท่วมขัง
โดยประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784″ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
ขอบคุณข้อมูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ขยายเวลายื่นแบบ-ชำระภาษี สรรพาสามิต ออก 2 มาตรการ ช่วยภาคอุตสาหกรรม พื้นที่น้ำท่วม
- เยียวยาน้ำท่วม: เปิดเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 3.58 แสนราย ได้อะไรบ้าง
- อัพเดท 9 จังหวัด น้ำท่วมถนน จราจรผ่านไม่ได้ 29 แห่ง