General

พบข้อมูลใหม่ ‘กราดยิงหนองบัวลำภู’ หลังผลตรวจไม่พบสารเสพติด

ผลตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายอดีตตำรวจคลั่ง “กราดยิงหนองบัวลำภู” สาเหตุพบข้อมูลใหม่ เพิ่งทะเลาะกับภรรยาก่อนไปศาล คลุ้มคลั่งออกไปก่อเหตุ และเครียด ตกงานมา 1 ปี

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ โดยยืนยันถึงประเด็นการตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายของคนร้ายผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่า เบื้องต้นที่ได้รับรายงานจากนิติเวช โรงพยาบาลอุดรธานี ยืนยันว่าตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุจริง ดังนั้น ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนตรวจร่างกาย ผู้ก่อเหตุอาจไม่ได้ใช้สารเสพติด แต่หลังจากนี้จะต้องการตรวจซ้ำอีกครั้ง ตามกระบวนการของแพทย์ เพื่อความชัดเจน
กราดยิงหนองบัวลำภู
พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนในเรื่องของแรงจูงใจและสาเหตุของการก่อเหตุ พบข้อมูลใหม่ว่า ผู้ก่อเหตุทะเลาะกับภรรยา เมื่อช่วงเวลาตี 4 ในวันเกิดเหตุ โดยภรรยาได้โทรหาแม่ให้มารับที่บ้าน เพราะไม่อยากอยู่ด้วย ผู้ก่อเหตุจึงอาจจะมีความเครียดสะสม หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุไปขึ้นศาลในคดียาเสพติด จากข้อมูลของคนใกล้ตัว บอกว่าตอนไปขึ้นศาลก็มีอาการปกติ และการพิจารณาคดีในวันนั้น แนวโน้มก็เป็นไปด้วยดีด้วยซ้ำ โดยศาลมีการสอบคำให้การ และให้ผู้ก่อเหตุ กลับไปเตรียมเอกสารมายืนยันคุณงามความดีเพื่อต่อสู้คดี ก่อนผู้ก่อเหตุจะกลับบ้านมา และคาดว่าเมื่อกลับบ้านมาไม่เจอภรรยาหลังทะเลาะกันในช่วงเช้ามืด จึงมีอาการคุ้มคลั่ง ก่อนออกไปก่อเหตุดังกล่าว
พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ ระบุอีกว่า ประเด็นหลักตอนนี้ยังพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งภายในครอบครัว และอาจไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ เพราะตกงานกว่า 1 ปี ทำให้เกิดความเครียด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ใช้ข้อเท็จจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ผบ.ตร.ยืนยันว่าในส่วนประเด็นเรื่องการถูกไล่ออกจากราชการ ไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะทุกอย่างตรงไปตรงมา และผู้บังคับบัญชาได้ให้ออกราชการ หลังมีการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เพราะพบยาเสพติด 1 เม็ด ตอนแรกยังให้ออกจากราชการไว้ก่อน และเพิ่งมีคำสั่งให้ออกจากราชการเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หลังจากสอบวินัยเสร็จสิ้นและพบว่าเป็นเรื่องจริง
ส่วนข้อมูลของผู้ก่อเหตุ สอบเข้ารับราชการตำรวจเมื่อปี 2555 ตอนนั้นมีการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายตามระเบียบแล้ว ยืนยันไม่พบสารเสพติด และจากข้อมูลรายงานของตำรวจนครบาล ยังไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่เมื่อย้ายมาอยู่ที่ สภ.นาวัง แล้ว พบว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป มีความก้าวร้าว ผู้กำกับการ สภ.นาวัง คนก่อน จึงได้เรียกมาคุยและยึดอาวุธปืนเอาไว้ ก่อนไปค้นเจอยาเสพติดภายในบ้าน จนต้องออกจากราชการ ส่วนอาการจิตเวชอื่นๆ ยังไม่พบเช่นกัน
ขณะที่ประเด็นของอาวุธปืนของผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่า เป็นปืนส่วนตัวที่ซื้อถูกต้อง พร้อมมีใบอนุญาตในการใช้ และซื้อในสวัสดิการของตำรวจ เพราะถูกกว่าราคาทั่วไป เมื่อถูกไล่ออกก็ถือเป็นของส่วนตัว
ผบ.ตร.ย้ำว่า ปัญหาการระบาดยาเสพติดในพื้นที่ถือเป็นนโยบายของตำรวจที่ต้องกวาดล้างและต้องปราบปรามอย่างเร่งด่วน เพราะมีคนคุ้มคลั่งเพราะฤทธิ์ยาเสพติดจำนวนมาก จึงต้องเร่งแก้ไขทุกมิติ ส่งตำรวจลงพื้นที่ปราบปราบโดยเฉพาะพื้นที่สีแดง
อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo