“กระทรวงสาธารณสุข” แจง ชายชาวกินีซื้อบริการทางเพศ ไม่ได้ติดเชื้อฝีดาษลิง ยืนยันไทยยังมีผู้ป่วย 7 ราย พรุ่งนี้เตรียมแถลงผลตรวจภูมิคุ้มกันผู้เคยปลูกฝีต่อเชื้อฝีดาษลิง
วันนี้ (4 ก.ย.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจวัดภูมิคุ้มกันผู้เคยปลูกฝีดาษต่อต้านเชื้อฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง
นพ.ศุภกิจ ระบุว่า กรมได้เพาะเชื้อฝีดาษวานร จากตัวอย่างเชื้อผู้ป่วยของไทย และนำเชื้อไวรัสตัวเป็น ๆ มาทดสอบกับน้ำเลือด ของผู้ที่ยืนยันว่าเคยปลูกฝีดาษ (Smallpox) เพื่อตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อฝีดาษวานร
การตรวจใช้วิธี plaque reduction neutralization test (PRNT) โดยจะเจือจางลงเท่าตัว จนถึง 50% ที่สามารถป้องกันได้ ถ้าผลออกมาว่าค่าไตเตอร์อยู่ที่ระดับ 100-200 แสดงว่าใช้ได้อยู่ แต่ถ้าไตเตอร์อยู่ที่ 10 กว่า ๆ อาจจะใช้ไม่ได้แล้ว
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า การตรวจจะดำเนินการใน 3 ช่วงอายุ ช่วงอายุละ 10 คน คือ ผู้ที่มีอายุระหว่าง 45-55 ปี อายุ 55-65 ปี และอายุ 65 ปีขึ้นไป เป็นการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสฝีดาษวานร 2 สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย คือ B.1 และ A.2
อย่างไรก็ตาม กรมจะแถลงข่าวข้อมูลทั้งหมดในวันที่ 5 กันยายน ส่วนผู้ติดเชื้อในไทยขณะนี้ยังมีเพียง 7 ราย
ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีชายชาวกินี อายุ 26 ปี ที่สงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร อ้างว่าซื้อบริการทางเพศหญิงบริการที่ถนนข้าวสารว่า จากการสอบสวนโรค ผลปรากฎไม่ใช่ฝีดาษวานร คาดว่าชายดังกล่าวอาจติดเชื้ออื่น
ดังนั้น ขณะนี้ไทยจึงยังคงพบผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรเพียง 7 คนเท่านั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วางใจไม่ได้!! ฝีดาษลิงติดจากชายหญิงมีเพศสัมพันธ์ ‘หมอเฉลิมชัย’ ลั่น ควบคุมยาก
- อัพเดท ‘ไวรัสฝีดาษลิง’ เจอแล้ว 10 สายพันธุ์ย่อย ‘WHO’ จัด 3 กลุ่มตามอาการโรค
- ‘หมออนันต์’ เตือน อย่าเพิ่งโทษสุนัขแพร่ฝีดาษลิง หลังพบเคสแรก สุนัขติดเชื้อจากเจ้าของ