วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี ภาษาอังกฤษคือ Chulalongkorn Day เป็นวันสำคัญ และวันหยุดราชการวันหนึ่งของไทย เป็นวันที่คนไทยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ประกาศ “เลิกทาส” ในประเทศไทย ตั้งแต่ 21 สิงหาคม 2417 และห้ามมีการซื้อขายทาสอีก
ประวัติ วันปิยมหาราช
วันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน
เรื่องที่โดดเด่นคือ การประกาศเลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อน หากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช” พร้อมทั้งกำหนดให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการ
ความสำคัญ
วันปิยมหาราช เป็นวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในทุกๆ ปีหน่วยงานราชการจะมีการวางพวงมาลาดอกไม้ ที่พระบรมรูปทรงม้าอย่างพร้อมเพรียง เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระปิยมหาราช (รัชกาลที่ 5)
สมเด็จพระปิยมหาราช หรือพระนามเต็มว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2396 พระนามเดิมว่า “สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์”
เมื่อพระชนมายุ 9 พรรษาได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ ต่อมาอีก 4 ปี ได้เลื่อนเป็น “กรมขุนพินิตประชานาถ” บรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2411 มีพระราชกรณียกิจสำคัญมากมาย
- เลิกทาส
ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124” (พ.ศ.2448) เลิกเรื่องลูกทาส ในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่เป็นทาสอีกต่อไป การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด
- ปฏิรูประเบียบบริหารราชการ
ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิม ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้น เข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง พอเหมาะสม
- การศึกษา
ทรงโปรดให้จัดตั้ง โรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศ ชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการให้ส่งบุตรหลาน เข้าเรียนในโรงเรียนภาษาไทยนี้
- ศาล
ทรงตั้งกระทรวงยุติธรรมขึ้น เพื่อรวบรวมศาลต่าง ๆ ให้มาขึ้นอยู่ในกระทรวงเดียวกัน
- คมนาคม
โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น
- สุขาภิบาล
ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก
- สงครามและการเสียดินแดน
ทรงควบคุมการเสียดินแดนของไทย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็พยายามทำให้ได้ประโยชน์ จากการเสียดินแดน ให้มากที่สุด
- เสด็จประพาส
ระหว่างที่ยังมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต่างประเทศหลายที่ เพื่อดูแบบอย่าง การปกครอง และนำมาแก้ไขดัดแปลง ใช้ในประเทศ
- ศาสนา
ทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภกโดยแท้จริงในด้านพระพุทธศาสนา
- วรรณคดี
ทรงเป็นนักประพันธ์ มีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้ว และร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า และพระราชพิธีสิบสองเดือน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 สิริรวมพระชนมายุได้ ๕๘ พรรษา นับเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ด้วยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่พระปรีชาสามารถ และเป็นที่รักยิ่ง ของพสกนิกรไทย สมกับพระราชสมัญญา “พระปิยมหาราช” ซึ่ง แปลความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘วันจักรี’ 6 เม.ย. รำลึก พระมหากรุณาธิคุณ ‘มหาจักรีบรมราชวงศ์’
- 24 กันยายน ‘วันมหิดล’ น้อมรำลึก ‘พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน’
- ในหลวง ร.9 ‘กษัตริย์นักพัฒนา’ เพื่อประชาราษฎร์อยู่ดี มีสุข