General

‘บิ๊กเจี๊ยบ’ สั่งเด้ง 2 ตำรวจ สอท. หลัง ‘ทนายตั้ม’ แฉพาดพิงรับส่วยส่งบิ๊กตำรวจ

“บิ๊กเจี๊ยบ” สั่งย้าย “รองฟาง-ดาบยาว” หลัง “ทนายตั้ม” แฉพาดพิงรับส่วยส่งบิ๊กตำรวจ ยืนยัน สอท.ไม่ใช่แหล่งหารายได้มหาศาล

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผผบช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ออกมาแถลงเปิดโปงขบวนการรับส่วยและเส้นทางการเงินที่พาดพิงถึง “ดาวยาว” สังกัด กก.1 สอท.2 และ “รองฟาง” รอง ผกก. ยศ พ.ต.ท. สังกัด กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.2 ว่า ในแนวทางการปฏิบัติของ สอท. คือ ต้องมีคำสั่งมาประจำ ศปก.สอท. และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

เด้ง 2

โดยหลังจากถูกพาดพิงเมื่อวานี้ (26 มี.ค.67) ก็ได้ดำเนินการทั้ง 2 ส่วนทันที ซึ่งตำรวจทั้ง 2 นายเข้ามาประจำที่ ศปก.สอท. แล้ว ส่วนตัวไม่ได้สอบถามนายตำรวจทั้ง 2 นายที่ถูกพาดพิง แต่ให้คณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบ และเมื่อวานมีการพาดพิงถึงหลายหน่วยงาน หลายพื้นที่ พบว่า เป็นข้อมูลปีเก่าๆตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ซึ่งทางสอท. ได้สั่งดำเนินการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว

ข้อมูลการแถลงข่าวพบว่า เป็นข้อมูลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับข้อมูลที่เคยมี ผกก. ใน จังหวัดสงขลา ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.เตาปูน ซึ่งขณะนี้ สน.เตาปูน อยู่ระหว่างการสืบสวนดำเนินคดี

ผบช.สอท. กล่าวว่า ส่วนที่ทนายตั้มจะไปพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เป็นส่วนที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ดำเนินคดีด้วยส่วนหนึ่ง จึงมองว่าสังคมไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการตรวจสอบ เพราะมีหลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบทั้ง สน.เตาปูน , บช.ก. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีการตรวจสอบในภาพรวมด้วย

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนเส้นทางการเงินที่มีลักษณะพาดพิงถึงการกระทำผิดหลายประเภท โดยเฉพาะเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเรื่องของเส้นเงินที่ตำรวจ สน.เตาปูน และ บช.ก. ต้องทำการตรวจสอบ ส่วนที่ถูกมองว่าลักษณะการเก็บเงินหน้าเสื่อแล้วส่งไปให้บิ๊กตำรวจนั้น ก็คงต้องดูหลักฐานที่นำมาชี้แจงกับหลักฐานทางการเงินว่ามีลักษณะการเชื่อมโยงกันแบบไหน บางเส้นก็มีครั้งเดียว บางเส้นเองก็มีหลายครั้ง ซึ่งเกี่ยวกับการถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น ซึ่งส่วนของ บช.สอท. เป็นการตรวจสอบทางวินัย เพราะคดีอาญาเป็นของ สน.เตาปูน และ บช.ก.

ผบช.สอท. กล่าวว่า ส่วนที่ทนายตั้มกล่าวอ้างว่ามีการนำเงินไปให้บิ๊กตำรวจคนหนึ่งนั้น ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้สั่งให้ตรวจสอบบุคคลที่ถูกพาดพิงทั้งหมด รวมถึงในภาพรวมของ สอท.ทั้งหมด โดยมีกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหน่วยไหนก็ล้วนต้องถูกตรวจสอบทั้งสิ้น และเชื่อว่าการตรวจสอบจะเข้มข้นเรื่อยๆในเมื่อเป็นข้าราชการก็ต้องพร้อมรับการตรวจสอบ

ผบช.สอท. กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ถูกมองว่า บช.สอท.เป็นแหล่งเงินที่มีการหารายได้กันมหาศาลนั้น ไม่ใช่ เพราะถ้าตำรวจหน่วยไหนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนั้นๆ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และมักจะถูกพาดพิงและถูกตรวจสอบ เช่น ตั้งแต่ตนเองรับตำแหน่งมา ก็มีการจับกุมเว็บพนันและยึดทรัพย์ไปหลายพันล้าน

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่จับบัญชีม้า แต่กลับถูกพาดพิงว่าใช้บัญชีม้าเอง พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า คงต้องไปให้หน่วยงานภายนอกเข้ามาตรวจสอบ เพราะสามารถดำเนินคดีกับเราได้ และตนได้มีการกำชับในการทำงานให้หนักขึ้นด้วย

เมื่อถามว่า บช.สอท.รู้สึกว่าเป็นหนึ่งในหมากที่อยู่เกมของบิ๊กตำรวจหรือไม่ พล...วรวัฒน์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานก็ต้องรับผิดชอบว่ามีเสียงสะท้อนแบบนี้ จะทำอย่างไรให้หน่วยงานอื่นมาตรวจสอบเราได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo