“เศรษฐา” ชมทุกหน่วยงานบูรณาการทำค่า “ฝุ่น PM2.5” ลดลงกว่าปีที่แล้ว แต่ยังต้องทะเยอทะยานแก้ไข เหตุยังติด “ท็อปเท็นโลก” จ่อใช้มาตรการเด็ดขาด ห้ามนำเข้าข้าวโพดประเทศเพื่อนบ้าน ช่วงไฮซีซั่น มกราคม-เมษายน ลั่น “รัฐบาลซีเรียส”
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน
นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน พร้อมกล่าวเมื่อเห็นกราฟสถิติค่าฝุ่น PM2.5 โดยระบุว่า แท่งกราฟสีชมพูอ่อน หากเทียบกับกราฟสีแดงปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่าปริมาณลดลงอย่างชัดเจน ปีที่แล้วสีแดงเข้ม แต่ปีนี้เป็นสีชมพู แม้ว่าที่ผ่านมาบางจังหวัด เช่น เชียงใหม่ อาจจะอยู่อันดับต้น ๆ จะอยู่อันดับ 1 ของโลก แต่ปริมาณก็ลดน้อยลงไป แต่ไม่ได้หมายความว่า ทำดีแล้ว ยังต้องพัฒนาต่อ
จากการที่ข้าราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการทำงานตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมาเห็นได้ว่า ค่าฝุ่นลดลงอย่างชัดเจน จุดความร้อนในปัจจุบันเป็นแค่ 1 ใน 3 ของปีที่ผ่านมา แสดงว่าทำงานได้ดีขึ้น 3 เท่า แต่ไม่ได้บอกว่าพอใจในผลงาน ผลจากการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับหน่วยความมั่นคง ทำให้จำนวนจุดความร้อนลดลงได้ถึง 1 ใน 3
นายเศรษฐา กล่าวว่า ในเรื่องผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อเป็นการเคลียร์ข่าวการเบิกจ่ายงบประมาณ ตอนนี้ยืนยันงบประมาณที่ให้ไปปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายได้จริง และนโยบายถือเป็นเรื่องดี ต้องเป็นคนในพื้นที่เท่านั้น ที่ผูกพันในพื้นที่ มีจิตใจรักเพื่อนที่ทำด้วยใจ ขอฝากในเรื่องความปลอดภัยอาสาสมัครเหล่านี้
ในเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องดูแลเขาด้วย เพราะอาจจะมีอันตรายได้ ทั้งเรื่องรองเท้า อุปกรณ์ต่างๆขอให้ดูให้ดีด้วย ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูที่พีคขึ้น แต่เข้าใจตรงกันคือจำนวนไม่เท่าปีที่แล้ว ดูจากสายตาโดยประมาณครึ่งต่อครึ่ง แม้ว่าเชียงใหม่จะติดท็อปของโลก แต่ปีนี้ก็ยังดีกว่า ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน แล้วคิดว่าจะดีต่อไปถ้าทำงานร่วมกันได้ดี
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ระดับสูงทุกคน ที่นำเรื่องของ ฝุ่น PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมบอกว่า หากได้ติดตามการทำงานของคณะรัฐมนตรีจะทราบว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ขอสรุปจากที่ได้รับฟังรายงานประเด็นแรกต้องยอมรับว่า PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา จริง ๆ แล้ว จุดฮอตสปอต ลดลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง หรือ 2 ใน 3 ซึ่งต้องให้ขวัญกำลังใจพี่น้องที่ทำงานด้วย
อย่างไรก็ตามตอนนี้เป็นช่วงที่เข้าสู่ระยะเฝ้าระวังไฮซีซั่นจากนี้ต่อไป 4-5 วันจะเป็นช่วงเฝ้าระวังที่สุด ซึ่ง PM 2.5 กระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจ จึงต้องหานวัตกรรมใหม่ ๆ มาประสานกับกองทัพ นำรถขนส่งซากพืชไปเข้าโรงงาน ซึ่งก็ได้พยายามกันอย่างเต็มที่
“เราต้องพูดความจริงว่า จริง ๆ แล้วก็ลดลงไปมาก และอีกส่วนที่เป็นปัญหาใหญ่ ที่ดูอยู่เป็นเรื่องการเผาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องของทิศทางลม และอะไรหลาย ๆอย่าง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษ พูดคุยกับทางกัมพูชา ผมก็ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย แต่ก็ยอมรับมีความลำบาก ซึ่งรัฐบาลเองก็ต้องพิจารณาออกมาตรการที่เด็ดขาด โดยภายในประเทศการเผาป่าเราไม่ยอม ซึ่งที่ผ่านมามีการจับแล้ว เพราะการเผาป่าถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่เราก็เข้าใจหลายๆเรื่องเป็นเรื่องเศรษฐกิจ”
ขณะเดียวกันรัฐบาล ก็ต้องพิจารณาเรื่องการทำภายในประเทศ แต่นอกประเทศอาจจะเป็นเรื่องการก้าวก่าย แต่ก็ต้องคุยกันทำอย่างไร ซึ่งอาจจะต้องถึงขั้นห้ามนำเข้าข้าวโพดในช่วงไฮซีซั่น 15 มกราคมถึงสิ้นเดือนเมษายน คงต้องห้ามนำเข้า
“ขอให้รู้ว่าซีเรียสจริง ๆ ในเรื่องนี้ แม้จะมีผลกระทบบ้างในราคาอาหารสัตว์ แต่หลายท่านก็เห็นสภาพ และทิวทัศน์จังหวัดเชียงใหม่ ที่เคยเห็นแม่น้ำเขื่อนภูเขา วันนี้มองไม่เห็นเลย สภาพเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับนโยบายท่องเที่ยว ถ้าเราไม่ดำเนินการคงลำบาก เศรษฐกิจเราจะลำบาก”
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เรื่องเหล่านี้ต้องคิดนอกกรอบ และซีเรียสได้มากกว่านี้ แม้จะลดไปได้ 1 ใน 3 หรือ 2 ใน 3 ก็ตามที จะต้องทะเยอทะยานในการแก้ไขปัญหา อย่าพอใจผลงานที่ทำมา ขอให้กำลังใจทุกคนที่ทำงาน ซึ่งหลายฝ่ายพยายามเจรจาในการแก้ไขปัญหา หากต้องการอะไรตนยินดีช่วยเต็มที่ ขอฝากทุกคน และขอบคุณนักวิชาการ ที่มาให้องค์ความรู้ ทำงานร่วมกับรัฐบาล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชื่นมื่น 3 นายกฯ ร่วมเฟรม ดินเนอร์มื้อพิเศษ
- คืบหน้าดิจิทัลวอลเล็ต! ‘นายกฯ’ จ่อถก ‘รมช.คลัง’ หลังครบกำหนด 30 วัน
- ‘นายกฯ’ ประกาศ!! ปีหน้าเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทยที่ใหญ่ที่สุด แนะคิดนอกกรอบ
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg