กองทัพเรือไทย-สหรัฐ ปิดภารกิจ “เรือหลวงสุโขทัย” ไม่พบผู้สูญหายทั้ง 5 นาย เก็บพยานวัตถุรวม 58 รายการ คาด 1 เดือนรู้สาเหตุอับปาง ยันไม่ต้องกู้เรือทั้งลำ เพราะได้พยานหลักฐานครบแล้ว
วานนี้ (11 มี.ค.) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เดินทางไปยังเรือ Ocean Valor จอดเรืออยู่บริเวณอ่าวไทย ใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจเยี่ยมปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยในวันสุดท้าย หลังปฏิบัติภารกิจครบ 19 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์-11 มีนาคม 2567 ระหว่างกองทัพเรือไทย กับกองทัพเรือสหรัฐ ภาคพื้นแปซิฟิก โดยเป็นหนึ่งในภารกิจการฝึก Cobra Gold 2024
นอกจากนี้ กองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยจัดแถลงข่าวปิดปฏิบัติการครบ 19 วัน บนเรือหลวงอ่างทอง นำโดย พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย พล.ร.ต.วิชชุ บำรุง ผู้บังคับหมวดเรือค้นหาและปลดสัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย ร.ต.ธงบุญ เพ็งแก้ว หัวหน้าชุดประดาน้ำ เรือเอก William Rittenhouse Commander, Task Group73.6
พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าวว่า เป็นระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน 22 วัน ที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางใต้ทะเลในความลึก 50 เมตร ซึ่งสภาพเรือพบว่า เรือตั้งแท่นเช่นเดิม เอียงไปทางกราบซ้าย 7.3 องศา สำหรับปฏิบัติการของนักประดาน้ำ 2 ประเทศ รวมปฏิบัติการดำน้ำ 82 เที่ยว 67 ชั่วโมง 53 นาที โดยผลการค้นหา 5 ผู้สูญหาย ไม่พบร่างทั้ง 5 คน หลังนักประดาน้ำได้เข้าสำรวจภายในห้องต่าง ๆ ตามที่วางแผน โดยส่วนใหญ่เป็นห้องที่อยู่ต่ำกว่าดาดฟ้าเรือ แต่ไม่ได้เข้าทุกห้อง ด้วยความเสี่ยงต่าง ๆ เพราะเรือจมอยู่ใต้น้ำลึก 50 เมตร รวมทั้งการสำรวจรอบตัวเรือ และพื้นทะเลใต้ตัวเรือ
ทั้งนี้ นักประดาน้ำได้ทำการเก็บพยานวัตถุ 58 รายการ ทั้งที่เป็นวัตถุ และภาพถ่าย ตามที่คณะกรรมการหาข้อเท็จจริงต้องการเพื่อใช้ประกอบการสอบสวนหาสาเหตุ เช่น บริเวณแผ่นดันคลื่น ประตูผนึกน้ำรอบตัวเรือ รอยทะลุทางกราบซ้าย 2 รอย สภาพฐานแท่นแพชูชีพ 6 แผง สำหรับส่วนที่เป็นวัตถุ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เครื่องบันทึกภาพดิจิทัล DVR 1 เครื่อง เสื้อชูชีพ 1 ตัว Laptop 1 เครื่อง และสมุดจดคำสั่งการนำเรือ 1 เล่ม เป็นต้น
สำหรับเครื่องบันทึกภาพดิจิทัล DVR หรือทีวีวงจรปิด ทางกองทัพเรือได้นำส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ทำการตรวจสอบและกู้ข้อมูล โดยกองทัพเรือหวังให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด พร้อมย้ำว่าเรือรบไม่มีกล่องดำเหมือนกับเครื่องบิน แต่สิ่งที่บันทึกความเคลื่อนไหวภายในเรือจะมาจากกล้องวงจรปิดในจุดที่มีการกล้อง
นอกจากนี้ทางสหรัฐยังได้ปลดขีดความสามารถทางทหารกับยุทโธปกรณ์บนเรือ ได้แก่ อาวุธปล่อยนำวิถีสู่พื้นฮาร์พูน ตอร์ปิโด MK309 เครื่องมือสื่อสาร ปืนกล 20 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก ปืนเล็กยาว M16 จำนวน 10 กระบอก ไม่ให้ใช้การได้ โดยทั้งหมดนำส่งให้กองทัพเรือไทยในฐานะเจ้าของ นำไปเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ต่อไป
พร้อมกันนี้ยังได้นำสิ่งของภายในเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมา เพื่อจัดทำเป็นอนุสรณ์ เช่น ป้ายชื่อเรือ พญาครุฑ พระพุทธรูป พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ระฆังเรือ สมอเรือ ธงราชนาวี เสากระโดงเรือ สมอเรือ ป้ายขึ้นระวางประจำเรือ เป็นต้น
ขั้นตอนที่ “กองทัพเรือ” ต้องดำเนินการต่อไป ได้แก่
- รวบรวมยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ สิ่งของเรือหลวงสุโขทัยที่เก็บกู้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง จะทำการสรุปผลการสอบสวน
- การสร้างอนุสรณ์สถานเรือหลวงสุโขทัยโดยนำสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจต่าง ๆ มาจัดแสดงในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพราะเป็นบ้านและที่ตั้งหน่วยของเรือหลวงสุโขทัย ส่วนจะมีการจัดแสดงอาวุธหรือไม่ ต้องรอการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าวย้ำว่า ด้วยปฏิบัติภารกิจทั้งหมดทำให้ไม่ต้องกู้เรือทั้งลำ เพราะได้พยานหลักฐานครบทุกรายการตามที่คณะกรรมการสอบสวนต้องการ และตอบโจทย์ทั้ง 4 ข้อในการปฏิบัติภารกิจ ได้แก่ การค้นหาผู้สูญหาย การตรวจสอบพยานวัตถุที่เรือ การปลดวัตถุอันตราย การนำวัตถุที่มีคุณค่าทางจิตใจขึ้นมา
“การค้นหาผู้สูญหาย ทางนักประดาน้ำได้สำรวจเต็มที่ในทุกเที่ยวดำน้ำ ผมบอกกับเขาว่าระหว่างลงไป ไม่ว่าไปไหน ให้ค้นหาผู้สูญหายด้วย ส่วนเรื่องการเยียวยาครอบครัว 5 ผู้สูญหาย ได้ดำเนินการเหมือนกับ 24 รายที่เสียชีวิตและพบร่างแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนทางกฎหมาย ที่ต้องรอคำสั่งศาลว่าเป็นผู้สูญหาย เมื่อครบ 2 ปี” พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าว
เมื่อถามถึงพยานวัตถุ 58 รายการ ตรงกับคำให้การพยานบุคคลหรือไม่ และจะสามารถเปิดหลักฐานทุกรายการได้หรือไม่ พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าวว่า อยู่ที่กองทัพเรือพิจารณา เพราะทางชุดปฏิบัติครั้งนี้ มีหน้าที่เก็บข้อมูล หลักฐาน ภาพ วิดีโอต่าง ๆเท่านั้น ส่วนจะเกี่ยวข้องกับสำนวนสอบสวนหรือไม่ เป็นหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สำหรับระยะเวลานั้นทาง ผบ.ทร. เร่งให้เร็วที่สุดไม่เกิน 1 เดือน
เมื่อถามว่าสมุดจดคำสั่งการนำเรือ 1 เล่ม เก็บกู้ขึ้นมานั้น ยังสามารถอ่านรายละเอียดได้หรือไม่ พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าวว่า ได้ส่งไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่แล้ว และต้องให้คณะกรรมการหาข้อเท็จจริงตรวจสอบ
สำหรับงบประมาณในปฏิบัติการครั้งนี้ พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าวว่า ทางสหรัฐจะชี้แจงอีกครั้ง แต่ในส่วนของกองทัพเรือไทย ได้คืนงบประมาณให้รัฐบาลไปแล้ว 90 ล้านบาท ส่วนงบที่กองทัพเรือจัดสรรเอง 110 ล้านนั้น พล.ร.อ.ชาติชาย ระบุว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยใช้งบประมาณไม่มาก ซึ่งจะมีการชี้แจงต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัยวันที่ 18 ยังไม่พบผู้สูญหาย ตัดโซ่สมอเรือขวาสำเร็จ
- ‘กลาโหม’ รอผลกู้เรือหลวงสุโขทัย ลั่นหากจมเพราะฝีมือมนุษย์ต้องมีคนรับผิดชอบ
- เปิดภาพปฏิบัติการสำรวจเรือหลวงสุโขทัยวันที่ 3 นำพระพุทธรูป-เอกสารประจำเรือขึ้นฝั่ง
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg