General

รัฐบาลจ่อประกาศ ส่งเสริมการมีบุตร เป็น ‘วาระแห่งชาติ’ ภายในเดือนมี.ค.นี้

รัฐบาลเตรียมประกาศ “ส่งเสริมการมีบุตร” เป็นวาระแห่งชาติภายในเดือน มีนาคมนี้ ชี้ ปัญหาเรื่องการมีบุตรน้อย กระทบถ้วนหน้าทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจและสังคม 

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้กรมอนามัย เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการเกิดอย่างมีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด Give Birth Great World การเกิดคือการให้ที่ยิ่งใหญ่

ส่งเสริมการมีบุตร

ทั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งจัดตั้งคลินิกส่งเสริมการมีบุตร บริการให้คำปรึกษา วางแผนการตั้งครรภ์ วินิจฉัยและรักษาภาวะมีบุตรยาก รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก (IUI) และพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลให้สามารถให้บริการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ได้มากขึ้น

ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันและส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ ในการพัฒนาประชากรและทุนมนุษย์ ให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการบูรณาการทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศได้ในเดือน มีนาคมนี้

เกณิกา อุ่นจิตร์
เกณิกา อุ่นจิตร์

การเตรียมประกาศวาระแห่งชาติดังกล่าว มีสาระสำคัญที่พิจารณาคือ มาตรการส่งเสริมการมีบุตร ทั้งเรื่องความสมดุลการทำงานกับการดูแลครอบครัว การแบ่งเบาค่าใช้จ่ายและภาระในการเลี้ยงดูบุตร การช่วยเหลือคนที่มีบุตรยาก รวมไปถึงการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ในกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มหนุ่มโสด สาวโสดที่อยากมีบุตรแต่ไม่อยากมีคู่ ให้มีโอกาสที่จะมีบุตรได้

ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาเด็กเกิดน้อยมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มีจำนวนเด็กเกิดใหม่เพียง 485,085 ราย น้อยที่สุดในรอบกว่า 70 ปี และจำนวนการเกิดยังน้อยกว่าการตาย ทำให้จำนวนประชากรลดลงตั้งแต่ปี 2564

หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป คาดการณ์ว่า ในอีก 60 ปี ข้างหน้า จำนวนประชากรไทยจะลดลงถึงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 33 ล้านคน เท่านั้น ซึ่งจะเสี่ยงต่อการขาดแคลนแรงงาน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo