General

เตือนแล้วนะ!! เกษตรกรเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน โทษหนักสิ้นสิทธิ ต้องออกจากที่ดิน

รองโฆษกฯ เผยมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินฯ ห้ามเกษตรกรเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน หากไม่ปฏิบัติ จะสิ้นสิทธิและต้องออกจากที่ดิน ย้ำรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 จริงจัง

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ห้ามเกษตรกรเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ขยะมูลฝอย หรือสิ่งของไม่พึงประสงค์ ฯลฯ ในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยหากได้รับหนังสือเตือนแล้วยังไม่ปฏิบัติ จะสิ้นสิทธิและต้องออกจากที่ดิน

shutterstock 2287912613

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญและเน้นย้ำถึงการจัดการกับปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM 2.5 ที่ถือเป็นวาระแห่งชาติ

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีมติกำหนดให้ เกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดิน ห้ามกำจัดวัสดุทางการเกษตร ฟางข้าว ตอซังข้าว ซังข้าวโพด หญ้า หรือขยะมูลฝอย หรือสิ่งอันไม่พึงประสงค์ใด ๆ โดยการเผาอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพดิน หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือการทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่น หรือสภาพแวดล้อม

หากเกษตรกรไม่ปฏิบัติตาม ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีหนังสือเตือนให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด ถ้าเกษตรกรยังคงฝ่าฝืนโดยไม่มีเหตุอันสมควร เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หรือผู้ซึ่งเลขาธิการ ส.ป.ก. มอบหมายจะมีคำสั่งให้สิ้นสิทธิและต้องออกจากที่ดิน

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์

ขณะที่ กระทรวงเกษตรฯ ตั้งเป้าหมายลดการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรมลง 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ครอบคลุมพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และพื้นที่อื่น ๆ ลดลง 10%

พร้อมกันนี้ ยังมุ่งผลักดันหลักการ 3R แก่เกษตรกร Re-Habit ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม Replace with high value crops ปรับเปลี่ยนพืชบนพื้นที่สูงให้เป็นการปลูกพืชที่ปลอดการเผาและลดการบุกรุกป่า และ Replace with Alternate crops ปรับเปลี่ยนพืชบนพื้นราบ จากพื้นที่ไม่เหมาะสมปลูกข้าวปรับไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชให้เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจังและยั่งยืน เพื่อยกระดับวิถีชีวิตประชาชนในทุกมิติ รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น อากาศสะอาด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินหน้าแก้ไขพร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ปัญหามีความเข้มข้นมากขึ้น จึงได้สั่งการเร่งสื่อสารให้ประชาชนและเกษตรกรทราบและเข้าใจถึงการทำการเกษตรที่ต้องไม่มีการเผา รวมถึงให้เข้าใจถึงจุดกำเนิดของ PM2.5 ที่จะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ และสุขภาพของประชาชนด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo