General

41 จังหวัด อ่วม ‘PM2.5’ สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-นครปฐม แตะระดับสีแดง แนะใส่หน้ากากอนามัย

41 จังหวัด อ่วม “PM2.5” สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม แตะระดับสีแดงแล้ว เริ่มพบจุดความร้อนในประเทศ 217 จุด แนะใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 8.00 น. ของวันที่ 8 มกราคม 2567

PM2.5

ฝุ่นพิษ 41 จังหวัด 3 จังหวัดอยู่ในระดับสีแดง

พบว่า 3 จังหวัดที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง คือ  #สมุทรสงคราม 112.3 ไมโครกรัม #สมุทรสาคร 92.7 ไมโครกรัม #นครปฐม 76.7 ไมโครกรัม และพบอีก 38 จังหวัด ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม

โดย 5 อันดับแรกสีส้ม ได้แก่  #ราชบุรี 71.4 ไมโครกรัม # อ่างทอง 70.7 ไมโครกรัม #ชัยนาท 70.4 ไมโครกรัม #สิงห์บุรี 67.1 ไมโครกรัม และนนทบุรี 64.0 ไมโครกรัม

PM2.5

ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม ทั่วทุกเขต  โดย 3 อันดับแรก คือ  #ดอนเมือง 70 ไมโครกรัม #หลักสี่ 69.6 ไมโครกรัม และ #หนองแขม 62.3 ไมโครกรัม

แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม

ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

PM2.5

จุดความร้อนในไทย 217 จุด เพื่อนบ้านกัมพูชามากสุด 812 จุด 

ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 217 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่การเกษตร 97 จุด ตามด้วยพื้นที่เขต สปก. 40 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 39 จุด ชุมชนและอื่นๆ 28 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 8 จุด และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 5 จุด โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ #ลพบุรี 30 จุด ตามด้วย #ขอนแก่น  17 จุด และ #ชลบุรี 12 จุด

นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 812 จุด  ตามด้วย พม่า 391 จุด ลาว 99 จุด และเวียนดนาม 81 จุด

PM2.5

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น”

PM2.5

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo