General

เน็ตไอดอลร้อง สธ. เอาผิด ‘หมอ-คลินิก’ รักษาจนไฟลุกตัวไหม้ระดับ 3

กัน จอมพลังพาเน็ตไอดอลร้อง สธ. เอาผิดหมอคลินิกรักษาจนไฟลุกตัวไหม้ระดับ 3

กัน จอมพลัง พร้อมด้วยเน็ตไอดอลสาวรายหนึ่ง ได้เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบกับทางหมอและคลีนิกแห่งหนึ่งย่านบางเขน หลังเน็ตไอดอลสาวผู้เสียหายรายนี้ได้เดินทางไปใช้บริการที่คลีนิกแห่งนี้แล้วถูกไฟลุกไหม้ตัวจากวิธีการรักษาที่เรียกว่า เผายา จนทำให้อาการสาหัสต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือน โดยมีนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข ตำแหน่งผู้ทรงวุฒิ  และ ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวด้วยตนเอง

เอาผิด

โดยกัน จอมพลัง กล่าวว่า ในระหว่างที่เกิดเหตุที่ไฟกำลังลุกไหม้อยู่บนร่างคนเจ็บแทนที่หมอจะมีสปิริตมาช่วยดับไฟแต่หมอกลับเลือกวิธีวิ่งหนี โดยที่ภายในห้องที่ทำการรักษาไม่มีอุปกรณ์ที่เตรียมพร้อมจะดับไฟเลยในกรณีที่เกิดความผิดพลาดมา จึงทำให้อาการของน้องบาดเจ็บสาหัสจากที่ไฟทีาลุกไหม้อยู่นาน แถมหลังเกิดเรื่องแล้วหมอที่รักษากับทางคลีนิกก็ปัดความรับผิดชอบกันไปมา ปล่อยให้น้องผู้เสียหายต้องควักเงินรักษาตัวเองอีก 3 แสนกว่าบาท เมื่อน้องผู้เสียหายขอให้ทางหมอกับทางคลีนิกช่วยเยียวยาก็ไม่มีใครช่วยเหลือ ทำให้น้องต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากตน แถมตนได้ข่าวมาว่าตอนนี้หมอที่รักษาน้องเขาผิดพลาดยังเดินทางไปต่างประทศอยู่เลย แต่น้องกลับต้องวิ่งตามเรื่องเพื่อขอความช่วยเหลือมานานนับปี

กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า จากคลิปเหตุการณ์ที่ตนได้รับมา ตนอดสงสัยไม่ได้ว่าทางคลีนิกแห่งนี้เปิดให้บริการให้การรักษาแบบนี้ได้อย่างไร ไม่มีแม้กระทั่งอุปกรณ์เซฟตี้ดูแลความปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการเลย และวิธีการรักษาแบบนี้เปิดรับการรักษาแบบถูกต้องไหม สามารถรักษาด้วยวิธีการแบบนี้ได้หรือไม่ แล้วถ้ายังเปิดรักษาแบบนี้อยู่แล้วเกิดเหตุการณ์เมื่อกับน้องผู้เสียหายขึ้นมาอีกจะทำยังไง และที่น่าสงสัยไม่แพ้กันคือเรื่องคดีที่น้องผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.บางเขน จนเวลาผ่านมาจะครบปีแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย ทั้งๆที่ปัจจุบันนี้น้องผู้เสียหายยังคงต้องเดินทางไปรักษาตัวจากบาดแผลไฟไหม้ที่เรื้อรังจนไม่สามารถออกไปทำงานได้ จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมจากทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ช่วยเหลือเยียวยาและตรวจสอบในเรื่องนี้

เน็ตไอดอลสาวผู้เสียหายรายนร้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมิ่อวันที่ 10 ธันวาคม 65 ที่ผ่านมา ในระหว่างที่ตนกับแฟนหนุ่มเดินทางไปจัดกระดูกที่คลีนิกแห่งหนึ่งย่านบางเขน ซึ่งเมื่อตนเองจัดกระดูกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานของคลีนิกได้เสนอให้ตนรับคอร์ทเพิ่มเติม โดยให้เลือกระหว่าง ครอบแก้ว ฝั่งเข็มที่ใบหน้ากับวิธีเผายาสมุนไพรที่หน้าท้อง แต่เนื่องจากตนเองเพิ่งไปฉีดโบท็อกซ์ที่ใบหน้ามาและมีงานที่เพิ่งรับไปจึงเกรงว่าการรับบริการด้วยวิธีอื่นจะกระทบกับงาน จึงเลือกเพียงวิธีการเดียวคือการเผายาด้วยสมุนไพรที่หน้าท้องเท่านั้น

โดยในระหว่างการใช้บริการนั้น ทางหมอได้นำสมุนไพรตัวยาต่างๆ มาโป๊ะที่หน้าท้องจากนั้นจึงนำสลิงที่บรรจุแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 95 % มีฉีดใส่สมุนไพรที่อยู่หน้าท้องแล้วลงมือจุดไฟ แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นมาทำให้ไฟลุกลามติดไปรอบตัวของตน ซึ่งในตอนนั้นตนเองก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกในระหว่างที่ไฟลุกพรึ่บขึ้นมาติดตัว ได้แต่ร้องออกมาด้วยความตกใจ ส่วนหมอที่ทำการรักษาได้วิ่งหนีออกไปนอกห้อง ทำให้แฟนหนุ่มของตนที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามใช้หมอนช่วยตีดับไฟ แต่ไฟไม่ดับจนกระทั่งแฟนหนุ่มของตนจับตนนอนลงไปกับพื้น แล้วให้ตนกลิ้งไปมาเพื่อให้ไฟดับลง จนกระทั่งเมื่อไฟดับแล้ว หมอคนดังกล่าวจึงวิ่งเข้ามาพร้อมกับยกมือขอโทษตนเองพร้อมกับพูดว่า จะดูแลเยียวยารักษาให้กลับมาเหมือนเดิม

ร้อง

เน็ตไอดอล กล่าวเปิดเผยอีกว่า หลังจากนั้นตนถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาทึ่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งแพทย์ระบุว่า ร่างกายตนถูกไฟคลอกในระดับที่ 3 ทำให้ต้องทำการพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน โดยในระยะแรกนั้นตนต้องเข้าออกห้องผ่าตัด 2 -3 วันต่อครั้ง ซึ่งทางคลีนิกกับหมอยังมาเยี่ยมและมาดูแลค่ารักษาให้กับตนในช่วงนั้น โดยที่ตนได้ใช้ประกันที่ทำไว้จ่ายค่ารักษาด้วยอีกส่วนหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อใกล้ออกจากโรงพยาบาล ทางคลีนิกก็แจ้งมาว่าทางหมอที่คลีนิกที่ทำการรักษาตนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าจ่ายใช้ต่าง ๆ ทั้งหมด แต่สุดท้ายทางหมอคนดังกล่าวก็มาบอกกับตนเองว่า บาดแผลจากการถูกไฟไหม้คงต้องใช้เวลาในการรักษาอีกเป็นปีๆ ซึ่งหมอคงไม่สามารถดูแลเยียวยารักษาได้ตลอดไป ขอให้ตนเป็นผู้ดูแล รักษาด้วยตัวเองต่อไป หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อแสดงความรับผิดชอบใดๆ จากทางคลีนิกและหมอคนดังกล่าวมาอีกเลย มีแต่ตนเท่านั้นที่พยายามติดต่อไป แต่ก็ถูกปฎิเสธโยนความรับผิดชอบกันไปมา

เน็ตไอดอลสาว กล่าวอีกว่า การที่ตนเดินทางมาร้องเรียนกับทางกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ ไม่ได้ต้องการมาทำลายชื่อเสียงหรือเกียรติของคนเป็นหมอ เพราะอาชีพนี้มีเกียรติมีคุณค่ามาก แต่ตนมาขอให้ทางหมอที่ทำการรักษาตนแล้วเกิดความผิดพลาดออกมาดูแลรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปล่อยทิ้งคนไข้ที่ไว้ใจให้อยู่ในการดูแลรักษาแบบนี้ ไม่ใช่มีแต่น้ำลายที่บอกตนหลังเกิดเหตุว่า ไม่ต้องห่วงจะดูแลรักษากันไป แต่ที่ผ่านมากลับไม่เคยเหลียวแลเลย หนำซ้ำคดีที่ตนไปแจ้งความเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญากับทางคลีนิกและหมอที่ทำการรักษากลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย จนเวลาผ่านมาจะครบปีแล้ว จนเคยมีความคิดแวปหนึ่งเข้ามาว่า ตนไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ต้องกลับบ้านมาดูแลเยียวยารักษาตัวเองโดยที่ออกไปทำงานไม่ได้

ทางด้านนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษากระทรวง ในฐานะ ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทาง รมว.สาธาสุขได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และมอบหมายให้ตนนำทีมกฎหมายและลงพื้นที่ตรวจสอบคลีนิกเอกชนที่เปิดทำการรักษาด้วยวิธีการแบบนี้ว่าได้รับการอนุญาต มีมาตราฐานในการรักษาถูกต้องหรือไม่ เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมทั้งการประสานงานกับทางแพทย์สภาที่ทำหน้าดูแลตรวจสอบแพทย์และหมอทั่วประเทศว่ากระทำผิดตามกฎของแพทย์สภาหรือไม่ ส่วนทางกระทรวงจะเข้าไปดูในเรื่องสถานประกอบการของคลีนิกว่าขออนุญาตดำเนินกิการถูกต้องหรือไม่ แต่จากที่ตรวจสอบและดูจากคลิปแล้ว พบว่าคลีนิกแห่งนี้ได้จดทะเบียนขออนุญาตใช้เป็นสถานที่เสริมสวยความงาม ไม่ได้ขออนุญาตเปิดทำการรักษาแบบแผนแพทย์ไทย ซึ่งผิดมาตราฐาน ส่วนหมอที่ทำการรักษาเป็นหมอจริง แต่ต้องไปตรวจสอบในเรื่องความรู้ความชำนาญในการรักษาด้วยวิธีนี้ขริงหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีความผิดในหลายประเด็นในตอนนี้คือ กระทำผิดมาตราฐานและกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับยาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางทีมกฎหมายกระทรวงสาธารณสุขตะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อีกครั้งหลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบคบีนิกแห่งนี้ในช่วงบ่าย และจะดำเนินการเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่จะมาใช้บริการต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo