General

รวบยกแก๊งตุ๋นทำบัตรประชาชน รีดหัวละ 5-7 หมื่น

รวบยกแก๊งตุ๋นแสบ ใช้รูปปลัด มท. แอบอ้างทำบัตรประชาชน รีดหัวละ 50,000-70,000 บาท

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งการให้นายเขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายราชพฤกษ์ ชูดำ รอง ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 98/2566 นายรัชพร วรอินทร์ ผอ.ศูนย์สืบสวนไซเบอร์ นายกฤษณศักดิ์ ศรีเบญจโชติ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สนธิกำลังร่วมกับกรมการปกครอง จับกุม น.ส.ยิน วิน สัญชาติเมียนมา นายพลกร (สงวนนามสกลุ) และนายสิปปกร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ , ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ฉ้อโกงประชาชนและบุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน

รวบ 2

การจับกุมดังกล่าวเนื่องจากผู้แทนกรมการปกครอง ได้ประสานข้อมูลผ่านกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ ว่าได้ตรวจพบเฟซบุ๊กชื่อ “ลงทะเบียนเปิดรับสิทธิทำบัตร” อ้างว่าสามารถทำบัตรประชาชนให้กับบุคคลที่ต้องการบัตรประชาชนไทย แต่ไม่สามารถทำผ่านระบบราชการปกติได้ โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวได้นำรูปของ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาแอบอ้างบนหน้าเพจดังกล่าว

จากนั้นกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ ได้สืบสวนสอบสวนพบกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ประกาศโฆษณารับทำบัตรประชาชนออนไลน์บนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ให้กับบุคคลที่ไม่สามารถทำบัตรประชาชนในระบบปกติของราชการได้ ในราคาใบละ 20,000-30,000 บาท แต่จะเรียกเก็บค่าดำเนินการเพิ่มเติมโดยอ้างว่าเป็นค่าอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้เสียหายแต่ละรายจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 50,000 – 70,000 บาท แต่สุดท้ายไม่ได้รับบัตรประชาชนฉบับจริงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินจำนวนมากที่มีลักษณะที่ผิดปกติ ในห้วงระยะวันที่ 1 มกราคม 2566-ปัจจุบัน พบยอดเงินหมุนเวียนประมาณ 300 ล้านบาท มีการโอนเงินต่อเป็นทอดๆ ปลายทางที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำเงินออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

566000010655203

สำหรับ น.ส.ยิน วิน ชาวเมียนมา จับกุมได้ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งมีหน้าที่กดเงินสดจากบัญชีธนาคาร ที่รวบรวมเงินจากผู้ที่หลงเชื่อ โอนเงินมาจ้างทำบัตรประชาชน จากนั้นได้นำไปส่งให้กลุ่มนายทุนฝั่งประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงยึดโทรศัพท์มือถือไอโฟน บัญชีธนาคาร 2 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 3 ใบ ขณะที่นายพลกร จับกุมได้ที่ จ.นครสวรรค์ มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินที่ได้จากการกระทำผิด ส่วนนายสิปปกร จับกุมตัวที่บ้านพักในพื้นที่ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากมีพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ถูกใช้รับโอนเงินจากเหยื่อ โดยมีการตรวจค้นบ้านพัก พบโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ และแฟลชไดร์ฟ 2 อัน จึงยึดไว้เป็นของกลาง

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม โดยเชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวพันกับคดีอาชญากรรมอื่นๆ อย่างไรก็ดี ขอแจ้งเตือนว่ากรณีการทำบัตรประชาชนผ่านทางเฟซบุ๊กนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากบัตรประชาชนมีขั้นตอนตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งกรมการปกครอง ไม่มีนโยบายรับทำบัตรประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ ทั้งสิ้น และหากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิด สามารถแจ้งมายังกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ โทร.02 831 9888 ต่อ 50231 หรือ DSI Call Center 1202 ในวันและเวลาราชการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo