นายกฯ ห่วงสู้รบลุกลามขยายวงระดับภูมิภาค เร่งถกเรื่อง”อพยพแรงงาน “เลบานอน-จอร์แดน” ส่วนตัวประกันในอิสราเอลมีแนวโน้มดีขึ้น-รอฟังข่าวดี
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์สงครามในอิสราเอลมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้าง ไม่ใช่แค่ระหว่างคู่ขัดแย้งสองฝ่าย แต่อาจขยายไปถึงระดับภูมิภาค
หวั่นการสู้รบลุกลาม เร่งพูดคุยอพยพแรงงานในเลบานอนและจอร์แดน
เนื่องจากมีการนำสงครามไซเบอร์และการใช้โดรนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้รัฐบาลมีความเป็นห่วงว่าจะมีการขยายวงสงครามไปยังประเทศที่อยู่ใกล้เคียงด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศจอร์แดนและประเทศเลบานอน ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ เริ่มเข้าไปพูดคุยกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในสองประเทศนี้ ถึงการพิจารณาเรื่องการอพยพ ทั้งนี้รัฐบาลจะทำการประเมินว่าต้องมีการแจ้งให้ทราบถึงปัญหาที่จะลุกลามไปในระดับภูมิภาค
แรงงานในอิสราเอลรีบตัดสินใจกลับไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนแรงงานไทยที่อยู่ในประเทศใกล้เคียงนั้นต้องมีการพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ส่วนแรงงานที่อยู่ในอิสราเอลที่แจ้งเจตจำนงจะเดินทางกลับใกล้จะหมดแล้ว ซึ่งเที่ยวบินของวันนี้มีที่ว่างกว่า 100 ที่นั่ง โดยเรายังต้องมีการพูดคุยอย่างต่อเนื่องกับแรงงานที่ยังอาศัยอยู่ ว่าสงครามมีแนวโน้มจะรุนแรงเพิ่มขึ้นและขยายวงกว้าง หากแรงงานมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับภารกิจของรัฐบาลก็ยังคงต้องดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคงว่ายังมีแรงงานจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปทำงานอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในขณะนี้ แต่รัฐบาลต้องพยายามค้นหาและแจ้งให้ทราบถึงความรุนแรงของสถานการณ์ เพื่อให้เขาตัดสินใจที่จะเดินทางกลับมาถึงแม้จะเดินทางไปอย่างถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง รัฐบาลยินดีที่จะนำเขากลับประเทศ
ส่วนแรงงานที่ยังไม่ตัดสินใจที่จะเดินทางกลับ รัฐบาลจะสื่อสารไปยังแรงงานให้ทราบถึงความรุนแรงของสถานการณ์เอง โดยจะมีการพูดคุยกับทางกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานเพื่อที่จะหารายชื่อ ถ้ามีทางที่จะติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ได้ รัฐบาลก็จะติดต่อไปโดยตรง
ข่าวตัวประกันมีแนวโน้มดีขึ้น–รอฟังข่าวดี
ส่วนเรื่องตัวประกันว่า รัฐบาลมีการทำงานอย่างเต็มที่ซึ่งจะมีการพูดคุยกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เพิ่งเดินทางกลับมา และยังได้รับรายงานจากผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทุกหน่วยงานช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่นับเป็นเรื่องที่ดี แต่ได้ขอให้ทุกหน่วยงานมีการประสานข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน โดยขณะนี้มีแนวโน้มไปในทางที่ดีแต่ยังต้องคอยติดตามว่าจะมีข่าวดีตอนไหน
นอกจากนั้นรัฐบาลจะทำการพูดคุยกับทุกหน่วยงานเพื่อเตรียมแผนรองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดในอนาคตและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงของพลังงาน รัฐบาลยืนยันว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐา’ เตรียมต่อสายตรงเจรจา ‘นายกฯ อิสราเอล’ กรณีแรงงานไทยวันนี้
- ‘อิสราเอล’ ถล่ม ‘ค่ายผู้ลี้ภัย’ ในกาซา สังหารผู้นำฮามาส ตายอย่างน้อย 100 ราย
- ‘ปานปรีย์’ ขออิหร่านสนับสนุน ‘ปล่อยตัวประกันไทย’ ในอิสราเอล