กลัวหางโผล่ พล.ต.ต.วิชัย เปิดโปงเพราะอะไร ตำรวจอยู่ข้างคดีกำนันนก มั่นใจจากประสบการณ์ตรงถึงมีเงินก็ไม่รอด
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรง และถูกจับตามองว่าบทสรุปจะลงเอยอย่างไร สำหรับคดีกำนันนก จนประชาชนสงสัยว่าสังคมไทย ตำรวจชอบเข้าข้างคนมีอิทธิพล งานนี้รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 8 เลยขอเชิญ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และอดีตผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล1 มาร่วมพูดคุย และสอบถามถึงประเด็นดังกล่าวแบบร้อนแรง ล้วงลึกว่าสังคมตำรวจดียังมีจริงหรือ พร้อมเปิดใจมุมลับหลังม่านตำรวจกับคดีกำนันนก เหตุการณ์จริง ๆ เกิดขึ้นอย่างไรกันแน่ และคนมีเงินทรงอิทธิพลจะอยู่ใต้กฎหมายได้จริงไหม
รบกวนช่วยเล่าเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในตอนนี้ได้ไหมคะ เอาแบบที่สามารถเปิดเผยได้ ?
“ได้ครับ คือจริง ๆ บิ๊กโจ๊กเขารู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ผมก็รู้จากลูกน้องที่นั้นบ้าง รู้จักพรรคพวก เพื่อนฝูงที่เล่าให้ฟังบ้าง ในวันเกิดเหตุ เราต้องยอมรับว่ากำนันนก เป็นผู้กว้างขวาง ในจังหวัดนครปฐม กว้างขวางเพราะอะไร 1.มีตังค์ พอคนมีตังค์มันก็มีอำนาจ แล้วมีอำนาจก็เป็นนักการเมืองบ้าง ท้องถิ่นบ้าง มีคนคุ้มกะลาหัวบ้าง พอเป็นเสร็จ คนก็เข้ามาหา โดยเฉพาะข้าราชการ เพราะเข้ามาหาและเขาสามารถสนับสนุนได้ เพราะเขาเป็นมือไม้ สส. เผลอ สส.ต้องอาศัยเขาด้วย พอเข้ามาสามารถทำการสนับสนุนโยกย้าย เพื่อให้เจริญก้าวหน้าได้ ไม่ใช่เฉพาะตำรวจอย่างเดียว หน่วยราชการอื่นอีก ก็ไปเสริมบารมีให้กำนันใหญ่โต (แสดงว่าเขากระซิบกระซาบใครสั่งย้ายไปชายแดนก็กระเด็นปลิวไปเลยเหรอคะ?) ก็ได้หมดครับ คือคนมีเงินมันก็ย้ายได้ เสร็จแล้ว พอสามารถตำรวจเข้าไปหา ข้าราชการเข้าไปหาเขา เขาก็ยิ่งใหญ่ ในทางตรงกันข้ามเขาเองก็เป็นคนมีบารมีเลย ขนาดเขาอย่างนี้ พวกข้าราชการยังเข้ามาหาเขาใช่ไหม”
เดี๊ยนเลยสงสัยว่าเชิญอย่างไรตั้ง 20 นาย ไปกินเลี้ยงกัน ?
“คือกำนันนก เขาทำอาชีพเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง คนหน่วยงานที่จะเกี่ยวข้องมากที่สุดก็คือตำรวจ ดังนั้นเวลาเขาจะทำอะไรเนี่ย เขาก็ต้องเอาตำรวจมาเป็นพวก ดังนั้นคนที่ไปกิน มีพฤติกรรมอย่างนั้น ไม่ใช่ทำวันนั้นวันเดียว มันกินกันทุกเดือน เผลอ ๆ ทุกอาทิตย์ พอกินกันไปกันมา มันเป็นเพื่อน มันเลยแสดงอะไรกันไปเลยเถิด มีที่เซฟเฮาส์ ก็กลายเป็นกินกันประจำเดือน แต่สำหรับคดีนี้ มันก็กินเป็นประจำเดือนอีกแหละ แต่ที่มันผิดสังเกตคือ ไปเชิญน้องคนที่ถูกยิงตายมา เพื่อมากินด้วย เราก็ต้องมาดูว่ามันเชิญมาทำไม เชิญมาเพื่อมาขอตำแหน่ง แล้วไม่พอใจยิงกันเหรอ ผมว่าไม่ใช่ มันต้องเชิญมาเกี่ยวกับผลประโยชน์ เพราะเด็กคนนี้มันเป็นเด็กคนตรง ตรงไปตรงมา เป็นเด็กที่ผู้บังคับบัญชาเขาส่องสั่งไปเพื่อล้างส่วยสติกเกอร์ ล้างส่วยทางหลวงไง พอไม่คล้อยตามมันก็ต้องชวนมาเข้ากลุ่มมากินก่อน คนเราถ้ากินกัน กินเหล้าเมายา เดี๋ยวมันก็รักกัน คราวนี้เด็กมันก็คงยังไม่ยอม แล้วมีการขอแต่งตั้งโยกย้ายด้วย เด็กคงยังไม่ตอบสนองเขา แล้วตัวเองมีบารมีไง เคยย้ายใคร เคยขอใครได้ แล้วเด็กคนนี้อายุเท่านี้ เด็กสารวัตรใหม่ ๆ กูขอไม่ได้ มันก็เสียหน้า พอเสียหน้ามันก็มีการต่อล้อต่อเถียงกัน (มันก็ต้องไปบอกลูกน้องว่าคนนี้มันหยามหน้ากูนะ พยักหน้า?) ผมว่าไม่พยักหน้าสั่งด้วยแหละ”
แต่มีเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีก เขาบอกพอมีเรื่องกว่าตำรวจจะมา ก็มีการเคลียร์พื้นที่ เอาปืนไปเก็บ จัดฉากทุกอย่าง กลบเกลื่อน ขอโทษนะคะ ตรวจใช้ความสามารถตนเองแบบนี้เหรอคะ ?
“นี่คือความเลวร้ายที่ทำให้พี่น้องประชาชนเสื่อมศรัทธา วันนั้นหลังจากเกิดเหตุแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร ทำด้วย มีการจับกุมมือปืนด้วย จับเสร็จพาเขาหนีด้วย นำขบวนพาเขาหนี แล้วเอาอาวุธที่ยิงไปทำลายไปซ้อนอีก มันเกินกว่าที่อาจารย์คิดอีก แล้วก็ไม่แจ้งอีกโรงพัก หน่วงเวลาให้ล้างหลักฐาน ทำลายหลักฐานจนหมด จนกว่าพนักงานสอบสวนจะมา ก็นี่คือความเลวร้ายไง”
การที่พวกตำรวจไปช่วยกำนัน เพราะกลัวความลับตัวเองหลุดออกมาหรือเปล่าคะ ?
“ที่อาจารย์พูดมา พวกเราตำรวจคิดเหมือนกันครับ มีคนบอกว่ามึงทำไมไม่รักตำรวจด้วยกัน และบางคนบอกว่ามึงทำไมต้องไปช่วยกำนัน ไม่ช่วยกำนันได้ไง พอเกิดกำนันบ้าขึ้นมาบอกว่า เปิดเผยแฉหมด เงินทองที่ส่งใครบ้าง เดี๋ยวก็หน้าดำกันหมด ดังนั้นคนเราอาจจะรักตัวกลัวตาย ช่วยกำนันก็ได้ บางคนรักตัวกลัวตายก็ช่วยตำรวจ แล้วแต่คนไหนจะคิดดี คนไหนคิดชั่วครับ”
กำนันจะติดคุกหัวโตไหมคะ หรือรอดกลับมาเพราะมีเงิน ?
“ผมเชื่อได้ว่า คดีนี่กำนันไม่รอด ไม่รอดข้อหาแรกก่อน 1.คดีนี้มีการโอนย้าย สำนวนการสอบสวนที่กองปราบ ถ้าอยู่ในพื้นที่การแทรกแซงขบวนการยุติธรรมมันย่อมมี เพราะกำนันมีตังค์ แต่พอมาอยู่นี่ การแทรกแซงต่าง ๆ ไม่ได้ ใครจะมาช่วยก็กลัวหมด ผมเคยช่วยคดีเมื่อปีที่แล้ว มีผู้หญิงคนนึงสมัคร ส.ท. โดนคู่แข่งที่เป็นญาติ และตำรวจเก่ามาแอบยิง ตำรวจคนนี้ก่อเหตุยิงมา 11 คดี ไม่เคยติดคุกเลย เพราะวิ่งเต้นขวบการยุติธรรมหมด เลยเป็นผู้มีอิทธิพล ขนาดวันสมัครมันยังมายิงผู้สมัครอีกคน ลูกสาวเขามาหาผม ผมไปหาผู้การกองปราบ ไปหาผู้บัญชาการสอบสวนกลางขอให้ย้ายสำนวนนี้มาอยู่ ประหารชีวิต ผมเลยเชื่อมั่นว่าหลุดยาก 2.พยานหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าเป็นพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานนิติวิทยาศาสตร์ และพยานแวดล้อมต่าง ๆ มันสามารถจะเป็นจิ๊กซอว์ต่อจับจนกำนันหลุดไม่ได้”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ค้นบริษัท ‘กำนันนก’ ฟอร์จูนเนอร์-กระบะ ใช้หลบหนี
- ‘กำนันนก’ แจ้งข้อหาอีก 5 คน ลูกน้องคนล้างเลือด-เก็บปลอกกระสุนทิ้ง
- ‘บิ๊กโจ๊ก’ ขอเวลา 3 วัน กู้ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด บ้านกำนันนก
