กรมทรัพย์สินทางปัญญา แจง “ปังชา-Pang Cha” บุคคลอื่นยังสามารถนำคำนี้ไปใช้ได้ แต่ห้ามจัดวางในลักษณะเดียวกันกับที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าได้จดไว้
วันนี้ (31 ส.ค.66) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ประเด็นที่มีกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับเมนู “ปังชา” น้ำแข็งไสรสชาไทยใส่ขนมปัง ซึ่งมีผู้ประกอบการรายหนึ่งอ้างสิทธิในการได้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร และลิขสิทธิ์นั้น ต้องทำความเข้าใจว่า เครื่องหมายการค้า ได้รับจดทะเบียนไว้แบบไหนจะคุ้มครองตามรูปแบบที่จดได้ และเฉพาะการใช้คู่กับสินค้าหรือบริการที่ระบุไว้ในคำขอเท่านั้น
กรณีนี้ผู้ประกอบการดังกล่าวได้ยื่นจดเครื่องหมายการค้ากับกรมฯ ไว้ 9 เครื่องหมาย ทุกเครื่องหมายมีการสละสิทธิคำว่า “ปังชา” และ “Pang Cha” ยกเว้นคำขอเลขที่ 220133777 ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่มีองค์ประกอบของคำว่า Pang Cha และรูปไก่ประดิษฐ์วางอยู่ในวงรี โดยผู้ยื่นคำขอได้นำส่งหลักฐานว่า มีการใช้เครื่องหมายนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนเป็นที่รู้จักแพร่หลาย กรมฯ จึงรับจดทะเบียน โดยไม่มีการสละสิทธิคำว่า Pang Cha โดยเป็นไปตามหลักของกฎหมาย ซึ่งผู้ประกอบการมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายนี้ตามองค์ประกอบของคำและภาพตามที่ได้รับจดทะเบียน
“แต่ไม่สามารถดึงเฉพาะบางส่วนของเครื่องหมาย คือ คำว่า “Pang Cha” มาอ้างว่าเป็นเจ้าของสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ขอย้ำว่า บุคคลอื่นยังสามารถนำคำนี้ไปใช้ได้ แต่ต้องไม่ใช้ทั้งภาพและคำในรูปแบบเดียวกันกับที่ผู้ประกอบการรายนี้ได้รับจดทะเบียนเอาไว้แล้ว เพราะจะเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้าได้”
ส่วนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการรายนี้มีการจดทะเบียนภาชนะสำหรับใส่ปังชาไว้แล้ว แต่ไม่ได้จดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรใน “สูตรปังชา” ซึ่งเป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว ผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีเมนูน้ำแข็งไสรสชาไทย จึงสามารถทำขายต่อไปได้
พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการว่า การออกแบบเครื่องหมายการค้า ควรเลือกใช้คำหรือภาพที่ไม่สื่อถึงประเภท คุณภาพ หรือลักษณะของสินค้าและบริการที่ขาย เพราะไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในคำหรือภาพเหล่านั้นได้ ซึ่งผู้ประกอบการอาจยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในประเด็นนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยตื่นตัว และให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอย่างมาก โดยมีการยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญากับกรมฯ มากกว่า 60,000 คำขอ/ปี ซึ่งนอกจากจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแล้ว ยังสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญาไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างเป็นรูปธรรม กรมฯ จึงอยากเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการไทยศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาแต่ละประเภท เพื่อให้ภาคธุรกิจไทยสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและถูกวิธี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจ้าของร้าน ยัน ปังชา ทุกคนใช้ได้ทั้งไทย-อังกฤษ รับสื่อสารผิดเอง ไม่เจตนาเรียก 102 ล้าน
- ทนายนิด้า ชี้ชัด ๆ ยันร้านค้า-ประชาชนใช้คำว่า ‘ปังชา’ ได้ หลังร้านดังเรียก 102 ล้าน
- สรุปดราม่า #ปังชา จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ร้านเล็ก ๆ ผวา! ทนายส่งโนติสเรียก 102 ล้าน