General

เปิดแล้ว เรือนจำอุตสาหกรรม แห่งแรกในไทย ฝีกทักษะผู้ต้องขัง

กรมราชทัณฑ์ เปิดเรือนจำอุตสาหกรรม แห่งแรกในประเทศ ที่เรือนจำกลางชลบุรี เพื่อฝึกทักษะการทำงานให้แก่ผู้ต้องขัง สร้างอาชีพหลังพ้นโทษ

วันนี้ (17 ส.ค. 2566) นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัด กระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดเรือนจำอุตสาหกรรม (Prison industry) ประจำเขต 2 เรือนจำกลางชลบุรี โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และนายพรยศ กลั่นกรอง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดดังกล่าว

กรมราชทัณฑ์

การจัดตั้งเรือนจำอุตสาหกรรม ถือเป็นภารกิจหนึ่งที่เป็นความพยายามให้เกิดขึ้น เพื่อฝึกทักษะการทำงานให้แก่ผู้ต้องขัง โดยใช้เวลายาวนานถึง 4 ปี ที่กว่าจะมาเป็นเรือนจำอุตสาหกรรมในวันนี้ โดยมีลักษณะการจัดตั้งโรงงานที่อยู่ภายนอกเรือนจำ และเรือนนอนสำหรับผู้ต้องขังที่ออกทำงานโดยเฉพาะ

เรือนจำอุตสาหกรรมดังกล่าว จัดตั้งขึ้นเพื่อลดการใช้แรงงานผู้ต้องขัง ในการผลิตที่เคยเกิดปัญหาร้องเรียนการจ้างงานผู้ต้องขังที่รายได้น้อย ส่งผลให้ได้รับเงินปันผลไม่เหมาะสมกับงานที่ทำ เช่น การถักแห อวน

ขณะที่การจ้างงานดังกล่าว ยังไม่สามารถเสริมสร้างทักษะในการทำงานได้อย่างแท้จริง รวมถึงต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนหรือการใช้แรงงานผู้ต้องขังซึ่งถือเป็นผู้ด้อยโอกาสทางสังคม อีกทั้งต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักกฎหมายอีกด้วย

พงษ์สวาท นีละโยธิน
พงษ์สวาท นีละโยธิน

ดังนั้น จึงได้มีการยกเลิกการจ้างแรงงานในลักษณะดังกล่าว และหันมาพัฒนาเพื่อเตรียมผู้ต้องขังเข้าสู่อาชีพในระบบอุตสาหกรรมหลังพ้นโทษที่มีรายได้ตามมาตรฐานแรงงานขั้นต่ำ

การเปิดเรือนจำอุตสาหกรรมในครั้งนี้ เรือนจำกลางชลบุรียังถือเป็นหนึ่งในนโยบาย 1 เขต 1 เรือนจำอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินการพัฒนาผู้ก้าวพลาด ให้ได้มีโอกาสฝึกทักษะด้านการทำงานกับสถานประกอบการและภาคธุรกิจจริง เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคม และสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพภายหลังพ้นโทษได้

สำหรับเรือนจำชั่วคราวบ้านบึง ในสังกัดเรือนจำกลางชลบุรี จัดให้เป็นสถานที่สำหรับเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยในการพัฒนา และส่งเสริมทักษะการทำงานในระบบอุตสาหกรรม ที่สามารถปรับภารกิจการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้มีความยืดหยุ่นขึ้น และสอดคล้องกับกิจวัตรประจำวัน

22 3

นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน เข้าฝึกทักษะการทำงานในระบบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการประกอบรถจักรยาน เพื่อนำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาด ซึ่งผู้ต้องขังจะสามารถนำความรู้และทักษะความชำนาญเหล่านี้ ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวเมื่อภายหลังพ้นโทษได้ และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

ขณะเดียวกัน การทำงานดังกล่าวยังสร้างรายได้ให้แก่ผู้ต้องขังระหว่างต้องโทษ และเก็บไว้เป็นทุนภายหลังพ้นโทษได้อีกด้วย ซึ่งในอนาคตจะมีการต่อยอดเรือนจำอุตสาหกรรมเพื่อขยายไปยังเรือนจำทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo