General

ลุยขยาย ‘มินิธัญญารักษ์’ ครบ 4 ภูมิภาค ทางเลือกรักษาผู้ติดยาเสพติด

กระทรวงสาธารณสุข เร่งขยาย “มินิธัญญารักษ์” ทางเลือกการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด

รองอธิบดี กรมการแพทย์ กล่าวว่า มินิธัญญารักษ์ เป็นแนวคิดขยายพื้นที่บริการ และเพิ่มการเข้าถึงของผู้ป่วยยาและสารเสพติดในเขตสุขภาพ ลดความแออัดสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพระยะยาว ในโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอสำหรับจำนวนผู้ป่วยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

 

ผู้ติดยาเสพติด

ประกอบกับ พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ได้มีการปรับระบบการบำบัดรักษาจากเดิม คือ ระบบสมัครใจ ระบบบังคับบำบัด และระบบต้องโทษ เป็นการสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา

ตามประมวลกฎหมายนี้ได้มีการถ่ายโอนภารกิจ ด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดในระบบต่าง ๆ ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นการดูแล ด้วยกลไกสาธารณสุขแทนการดำเนินคดีทางอาญา

ทั้งนี้ ให้ถือว่า ผู้ติดยาเสพติดเป็นผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการดูแลบำบัดรักษา เน้นลดอันตรายที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด และพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคม ได้อย่างปกติสุข

ดังนั้น จึงมีแนวคิดขยายบริการดังกล่าวสู่เขตสุขภาพ ด้วยความร่วมมือจากโรงพยาบาลชุมชนที่มีศักยภาพและความพร้อม โดยใช้แนวคิด Mini Big C ที่นำห้างสรรพสินค้าลงสู่ชุมชนในรูปแบบร้านสะดวกซื้อ มาพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยยาและสารเสพติดระยะกลาง (Intermediate Care) และระยะยาว (Long term Care) ภายใต้ชื่อ มินิธัญญารักษ์

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนารูปแบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาทและสารเสพติดระยะยาวในโรงพยาบาลชุมชน เขตสุขภาพที่ 7, 9, 10 ซึ่งเป็นรูปแบบ Long term Care ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2564 ณ โรงพยาบาลกุดชุม จังหวัดยโสธร

มินิรักษ์1

สำหรับประโยชน์ที่ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ จะได้รับ คือ ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น สะดวกต่อการเดินทาง ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการเดินทางมารับการรักษาในโรงพยาบาลเฉพาะทาง แก้ปัญหาเตียงไม่เพียงพอลดความแออัดในการอยู่บำบัดรักษา

ขณะที่เป้าหมายสูงสุดคือ การที่ผู้ป่วยติดยาเสพติด ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพต่อเนื่อง จนถึงการติดตามจนสามารถกลับมาประกอบอาชีพโดยสุจริตได้

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลชุมชน ยังมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพผู้ให้การบำบัดรักษาให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านการบำบัดรักษาผู้ป่วยยา และสารเสพติดแบบ Residential Care เพิ่มอัตราครองเตียงภาพรวมของโรงพยาบาล รวมถึงเพิ่มค่าความยากง่ายในการวินิจฉัยโรคร่วม เพิ่มคุณภาพบริการ ของโรงพยาบาลชุมชนให้มากขึ้นอีกด้วย

จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 ถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดรักษาแล้วจำนวน 149 ราย อยู่ระหว่างการบำบัดจำนวน 12 ราย ภายหลังการบำบัดผู้ป่วยได้รับทุนประกอบอาชีพจำนวน 1 ราย

ด้านผลการติดตามหลังการบำบัดฟื้นฟูฯ ผู้ป่วยยังคงอยู่ในการติดตามดูแลต่อเนื่อง 98.37% ผู้ป่วยสามารถเลิกยาเสพติด ไม่กลับไปเสพซ้ำ 91.89% ผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ดีขึ้น มีความรับผิดชอบ ช่วยงานอาชีพในครอบครัว คะแนนคุณภาพชีวิต อยู่ในระดับปานกลาง 90.24%

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2565 และ 2566 มีการเปิดบริการเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างการบำบัดรักษาจำนวน 11 ราย และเปิดให้บริการในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาอีก 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี

กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ร่วมกับกรมการแพทย์ ได้ขยายผลโครงการดังกล่าวสู่โรงพยาบาลชุมชนที่มีความพร้อมทั่วประเทศ ปัจจุบันมีโรงพยาบาลชุมชน แจ้งความประสงค์เปิดให้บริการแล้วกว่า 33 แห่ง

ล่าสุด อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ซึ่งจำเป็นต้องผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านการบำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยา และสารเสพติด ซึ่งสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยติดยาเสพติดแห่งชาติบรมมราชชนนี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง จะดำเนินการขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2566 นี้ ทั้ง 4 ภูมิภาค

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo