ตำรวจ แนะข้อสังเกต 7 สัญญาณเตือน เด็กถูกทำร้ายที่โรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองต้องรู้ เช็กเลยมีอะไรบ้าง
ตำรวจสอบสวนกลาง โพสต์เพจเฟซบุ๊ก เตือนพ่อแม่ผู้ปกครอง สังเกตบุตรหลาย 7 สัญญาณเตือน เด็กอาจถูกทำร้ายที่โรงเรียน โดยระบุว่า
หลังจากที่ทุกสถานศึกษาได้เปิดเรียนมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เด็ก ๆ หลายคนอาจจะกำลังปรับตัวการกับการเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งใหม่ หรือเจอเพื่อนใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่อาจจะมีการไม่เข้าใจ ทะเลาะ หรือกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่บางครั้งก็อาจรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน
วันนี้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มีวิธีแนะนำสำหรับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ควรสังเกตอาการของลูกหลาน หากมีพฤติกรรมเหล่านี้ ควรสอบถามและดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีความเป็นไปได้ว่าบุตรหลานของท่านจะถูกทำร้ายที่โรงเรียน
1. บาดแผลตามร่างกาย
รอยแผลที่เกิดจากการถูกทำร้าย บางครั้งอาจจะเป็นรอยช้ำนิดหน่อย แต่เป็นรอยฟกช้ำที่ดูผิดปรกติ เช่น รอยถูกหยิก หรือหูที่บวมแดง รอบบวมตามแขน ขา เป็นต้น
2. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
อาจมีพฤติกรรมที่ผิดแปลกจากเดิม ตกใจง่าย มีปัญหาการเข้ากับเพื่อน หรือไม่ยอมไปโรงเรียน หรือแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การนอนสะดุ้งจากฝันร้าย หรือกลับไปฉี่รดที่นอนอีกครั้ง
3. ความเงียบไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
เด็กหลายคนที่ถูกทำร้าย เลือกที่จะเงียบมากกว่าโวยวาย เพราะเด็กกลัวว่าเขาจะถูกทำร้ายมากขึ้น หรือแม้แต่กลัวว่าจะเข้ากับสังคมที่โรงเรียนไม่ได้
เด็กบางคนเลือกที่จะเงียบ เมื่อลูกเกิดเงียบจนผิดปกติ คุยน้อยลงจนน่าแปลกใจ หรือถามคำตอบคำแทนที่จะร่าเริง ให้คิดว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้นได้
4. อารมณ์รุนแรง
การถูกทำร้ายร่างกายนั้น ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก ๆ และยังอาจจะทำให้เด็กเกิดพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น เหม่อลอย ขี้ลืม สมาธิสั้น โกรธโมโหง่าย ฉุนเฉียวง่าย ที่อาจจะเกิดจากความคับข้องใจที่ต้องการระบาย บางคนแสดงออกด้วยความก้าวร้าว ต่อต้าน
5. เริ่มมีการใช้ความรุนแรง
เห็นว่าการใช้ความรุนแรง อย่างการทำร้ายร่างกายทำให้เกิดผลดีได้ เช่น การที่เห็นเพื่อนโดนครูตีแล้วหยุดดื้อ หรือการที่เพื่อนโดนครูหยิกแล้วหยุดคุยกัน ทำให้เด็กแปรผลของพฤติกรรมทางลบนั้นเป็นเรื่องบวก ทำให้เกิดการเลียนแบบโดยใช้ความรุนแรง เพราะเขามองว่าความรุนแรงยุติปัญหาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ๆ
6. ขาดความมั่นใจ
ถ้าอยู่ ๆ ลูกเคยทำอะไรได้ แต่กลับไม่กล้าทำ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเอะใจสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียนหรือไม่ อาจจะต้องใช้วิธีให้กำลังใจก่อนจะค่อย ๆ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมกับให้คำแนะนำ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และให้แนวคิดที่ถูกต้อง
7. การกินและการนอนที่เปลี่ยนไป
เด็กที่ถูกทำร้าย อาจจะส่งผลต่อพฤติกรรมหลายอย่าง เด็กอาจจะเศร้าจนกินได้ไม่มากเท่าเดิม หรือนอนฝันร้าย นอนสะดุ้ง ฉี่รดที่นอน เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเอะใจว่า อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีที่โรงเรียนอย่างแน่นอน
การตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในวัยเด็กนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่ หลายคนอาจคิดว่าโตขึ้นเด็กคงลืมได้ แต่แท้จริงแล้วความรุนแรงนั้นจะแฝงอยู่จนเมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้น พวกเขาจะเลือกใช้ความรุนแรงเพื่อแก้ปัญหา เพราะเรียนรู้ในวัยเด็กว่า ความรุนแรงนั้นยุติปัญหาได้จริง
ดังนั้นจึงขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตอาการของลูกๆ หลาย ในเบื้องต้น เพื่อป้องกันเด็กถูกทำร้ายที่โรงเรียน และป้องกันตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในโรงเรียน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช็อก! เด็กเซอร์เบีย กราดยิงในโรงเรียนประถม ดับ 9 ศพ เจ็บ 7 ราย
- สุดเศร้า! เด็ก ป.6 อายุ 12 ปี หัวใจวายเสียชีวิต ในห้องสอบโรงเรียน
- ‘ตรีนุช’ ลั่น ‘โรงเรียนเขตปลอดบุหรี่ไฟฟ้า’ หลังมีข่าว เด็กป.5 ราว 20 คน รวมเงินซื้อมาสูบ เพราะอยากลอง