“หมอธีระวัฒน์” เตือน ลองโควิด ทำอาการอักเสบปะทุ สมองผิดปกติ เร่งอัลไซเมอร์แสดงอาการเร็วขึ้น พร้อมแนะวิธีป้องกัน-รักษา
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เรื่อง หลังติดโควิด อัลไซเมอร์ ปะทุ แต่จัดการได้
สมองเสื่อม เป็นเรื่องที่น่ากลัวและมีเวลาเพาะบ่มตัวได้ถึง 15 ถึง 17 ปี ก่อนที่จะแสดงอาการออกมา
ตัวเร่งที่ทำให้เกิด แม้ว่าจะไม่มีรหัสพันธุกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดโรคก็ตาม คือ การอักเสบไม่ว่าจะเกิดจากภายนอก ตั้งแต่สารเคมีที่ปะปนในพืช ผัก ผลไม้ ในอาหาร และมลพิษ พีเอ็ม 2.5
และสถานการณ์อาจจะเลวร้ายขึ้นไปอีก จากการที่ติดเชื้อโควิด
โควิดนั้นให้ผลกระทบหลายระลอกด้วยกัน แม้ว่าขณะติดอาการจะน้อยนิดเหมือนมีไข้หวัดน้ำมูกเจ็บคอ แต่เกิดอาการติดตามต่อเนื่องได้เป็นเดือนหรือเป็นปี ที่เรารู้จักกันในชื่อของ ลองโควิด
โดยมีอาการได้ตั้งแต่อ่อนเพลีย ออกแรงไม่ไหวหัวใจเต้นแรง จนกระทั่งเต้นผิดจังหวะ หรือมีความดันสูงบ้างต่ำบ้าง
นอกจากนั้น อาจปรากฏในรูปของสมองผิดปกติ เช่น นอนหลับยาก ตื่นง่าย หรือหลับ ๆตื่นๆ ไปจนกระทั่งถึงความจำสั้น สมาธิหาย หรือมีอาการสมองอักเสบรวมทั้งคลื่นไฟฟ้าในสมองผิดปกติในรูปของโรคลมชัก อารมณ์แปรปรวนหดหู่ จนกระทั่งมีอาการทางจิต ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อเส้นเอ็น ตะคริว เส้นประสาทอักเสบ ชาแสบ
อีกกลุ่มอาการ เป็นในรูปลักษณะมีการอักเสบ ปะทุง่าย ทำให้ มีผื่น ผิวหนัง จนกระทั่งถึง คัน มีผมร่วง และระบบทางเดินอาหารแปรปรวน อาการคล้าย กรดไหลย้อน ท้องผูกสลับท้องเสีย
ลักษณะอาการเหล่านี้ยังปรากฏขึ้นในคนที่ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะ mRNA และแพ้ จะมีอาการแบบลองโควิดได้ทุกประการ
หมอเองติดโควิดวันที่ 10 มิถุนายน 2565 (ได้วัคซีนโควิดสี่เข็ม) อาการปานกลาง อยู่โรงพยาบาลสามวันได้ยาฉีดฆ่าไวรัส
ในช่วงหลังจากนั้น สองถึงสามอาทิตย์มีความแปรปรวนทางสมอง อย่างที่เรียกกันว่า หมอกลง (brain fog) คิดช้าคิดไม่ฉับไว ทำอะไรช้า เรียกชื่อโรค ชื่อยาไม่ถูก
13 วัน หลังจากติดโควิด จากการตรวจเลือดพบว่ามีหลักฐานของ อัลไซเมอร์ ปรากฎ โดยมีอัตราส่วนของโปรตีนเอมีลอยด์ 42:40 ลดลง แต่ยังไม่พบว่า ทาวโปรตีน (p-Tau181) ขึ้น ซึ่งมีความไวและความจำเพาะสูงต่อ อัลไซเมอร์
100 วันหลังจากติดโควิด โดยที่อาการของหมอเองนั้น ทางสมองสดใสเหมือนเดิมทำงานได้ สอน ทำวิจัยเขียนรายงานวิจัยลงวารสารได้
แต่เมื่อตรวจเลือด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีอาการผิดปกติ เลือดทั้งสองตัว อมิลอยด์ และ ทาวโปรตีนขึ้นในระดับสูง (สูงกว่าค่าปกติของคนอายุ 75 ปี)
และ นั่นเอง ต้องทำการต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้สมองเสื่อมปะทุ จนกระทั่งออกอาการ
จะทำอย่างไร ง่ายที่สุดเลยก็คือ อาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ แป้งน้อย ไม่เอาเนื้อสัตว์บก ทานกุ้งหอยปูปลาได้ ออกกำลังสม่ำเสมอเดิน 10,000 ก้าว และแน่นอนเดินกลางแดด
ห้าเดือนเต็มหลังจากที่เจาะเลือด และรู้ว่าสมองเสื่อมปะทุ หมอประเมินตัวเองใหม่ (19/2/2566) และพบว่าโปรตีนอัลไซเมอร์ทั้งหมดหายไป
ที่ต้องยกตัวอย่างของตัวหมอเองมาเผยแพร่นั้น เนื่องจากสามารถจาระนัย ความผิดปกติของตนเองได้อย่างแน่นอน ชัดเจน และอย่างน้อยแสดงให้เห็นว่า ข้อมูลทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่ชี้แล้วว่า การเข้าใกล้มังสวิรัติ การออกกำลังกาย ตากแดดเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการลดการอักเสบ
การอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายนั้น จุดชนวนเชื้อเพลิง กองที่หนึ่ง (hit 1) และแทรกซึมเข้าไปในเนื้อสมองไปจุดชนวนเชื้อเพลิง กองไฟที่สอง (hit 2) ในสมอง และกระตุ้นให้มีการสร้างโปรตีนผิดบิดเกลียวสมองเสื่อมเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ถ้าสามารถ สงบการอักเสบเหล่านี้ได้จริง และได้เร็วเท่าไหร่ โดยที่อาการสมองเสื่อมยังไม่ปรากฏหรือมีอาการแล้วแต่ยังไม่มาก ย่อมสามารถดึงกลับคืนได้
ทั้งนี้ ในร่างกายและสมอง มีกลไกควบคุมการสร้างโปรตีนพิษบิดเกลียวเหล่านี้ จนกระทั่งถึง คลี่ เกลียวออกได้
การตรวจเลือดประเมินสมองเสื่อมได้ ตั้งแต่ไม่มีอาการเหล่านี้ พัฒนาโดยศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬา ของเรา โดยได้ริเริ่ม ทำมาหกปีแล้ว
ในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง อว. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส) และการติดตามผลกระทบของโควิด และของโควิดวัคซีนนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง อว. เช่นกัน ผ่านทาง สำนักงานวิจัยแห่งชาติ
การปฎิบัติตัวง่าย ๆ ไม่เสียสตางค์เหล่านี้ ควรเป็นหลักปฏิบัติของคนไทย ทั้งที่ยังไม่ได้เกิดโรคอะไร หรือเกิดแล้วก็ตาม และสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งหรือเมื่อเกิดมะเร็งแล้วสามารถชะลอการลุกลามได้
ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด หรือจะเกิดกับคนร่ำรวยเพียงใดมีทรัพย์สมบัติล้นฟ้า แต่ถ้าเกิดเรื่องเหล่านี้แล้ว จะพึ่งแต่ยาอย่างเดียว แน่นอนคงเป็นไปไม่ได้ครับ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลงทุน และทำด้วยความสม่ำเสมอ จะทำให้เราไม่เป็นภาระกับครอบครัวสังคม และประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฮีทสโตรก’ อุณหฆาต ที่มากับความร้อน ‘หมอธีระวัฒน์’ เตือนสังเกตอาการ วิธีปฐมพยาบาล
- WHO ยุติ ‘โควิด-19’ จากภาวะฉุกเฉินสาธารณสุขโลก แต่ยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง
- ‘หมอมนูญ’ ชี้โควิด-19 อยู่ในช่วงขาขึ้น และจะเพิ่มต่อเนื่องอีก 2-3 เดือน