General

ศาลฎีกาพิพากษายืนสั่งประหาร อดีต ‘ผอ.กอล์ฟ’ คลั่งฆ่าชิงทองในห้างดังที่ลพบุรีปี 63

ศาลฎีกาพิพากษายืน สั่งประหารชีวิต อดีต “ผอ.กอล์ฟ” คลั่งฆ่าชิงทองในห้างดังที่ลพบุรีปี 63 ศาลชี้พฤติการณ์อุกอาจ กระทำในที่สาธารณะ ฆ่าผู้บริสุทธิ์  อย่างโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม 

วันนี้ (26 เม.. ) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีฆ่าชิงทองภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน .ลพบุรี คดีหมายเลขดำ .409/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 6 เเละ บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ พร้อมด้วย ผู้เสียหายรวม 10 ราย เป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้อง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 39 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสิงห์บุรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร และโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานชิงทรัพย์ และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต รวม 9 ข้อหา ซึ่งจำเลยให้การภาคเสธ และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง

ประหาร

ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 .. 64 ว่า จำเลยมีความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (6) ประกอบมาตรา 60, 289 (6) ประกอบมาตรา 80, 289 (7), 339 วรรคสอง วรรคสี่ และวรรคท้ายประกอบมาตรา 340 ตรี, 371, 376, ...อาวุธปืนฯ .. 2490, ...ควบคุมยุทธภัณฑ์ .. 2530 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ดังนี้ 

  • ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน
  • ฐานมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง จำคุก 6 เดือน
  • ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุสมควร จำคุก 3 ปี
  • ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพิ่มความสะดวกในการจะกระทำผิดให้ประหารชีวิต
  • ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิต
  • ฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีและใช้อาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะ ให้ประหารชีวิต 

ภาพหน้าจอ 2566 04 26 เวลา 11.22.06

เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลย สถานเดียว ปรับ 1,000 บาท ริบของกลาง อาวุธปืนและเครื่องกระสุน หมวกโม่งคลุมศีรษะสีดำ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เสื้อยืด โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้กระทำผิด รวมทั้งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บรรดาโจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 1.8 แสนบาท, ที่ 2 จำนวน 9.9 หมื่นบาท, ที่ 3 จำนวน 1.3 แสนบาท, ที่ 4 จำนวน 2.2 ล้านบาท, ที่ 5 จำนวน 7.5 แสนบาท ที่ 6, 7 และ 8 จำนวน 2.25 ล้านบาท, ที่ 9 และ 10 จำนวน 7.5 แสนบาท

จำเลยยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วว่า  มีเหตุสมควรลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หรือไม่ เห็นว่าโจทก์และโจทก์ร่วมมีพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และพยานแวดล้อมกรณีมาสืบให้รับฟังได้อย่างมั่นคงว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งสามและผู้เสียหายและชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำของโจทก์ร่วมแล้วหลบหนีไป โดยจำเลยมิได้ลุแก่โทษเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานและสารภาพความผิด แต่ได้ความว่า เจ้าพนักงานตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงเพื่อขอออกหมายจับจำเลย ลำพังพยานหลักฐานที่โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบมาก็เพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้แล้ว

ฉะนั้น การที่จำเลยรับสารภาพเป็เพราะเกิดจากจำนนต่อหลักฐาน การที่จำเลยชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และฆ่าผู้อื่น เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ลักษณะของการกระทำความผิดจึงเป็นไปโดยอุกอาจ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมทารุณ ไร้มนุษยธรรม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรงถึงแม้จำเลยชดใช้ความเสียหายเพื่อบรรเทาผลร้ายสำนึกผิด หรือมีคุณความดีดังที่อุทธรณ์ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะสมควรใช้ดุลยพินิจลดโทษให้แก่จำเลยได้ ที่ศาลชั้นต้นให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยโดยไม่ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 นั้นย่อมเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัวนายสิทธิชัย  หรืออดีตผอ.กอล์ฟ ซึ่งสวมแว่นตา ใส่กุญแจมือ และตีตรวนที่ขาทั้ง 2ข้าง จากเรือนจำกลางบางขวาง มาฟังคำพิพากษา  ซึ่งก่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาเล็กน้อยผอ.กอล์ฟมีโอกาสพูดคุยกับบิดามารดาสั้นๆว่า แว่นสายตาที่ใช้อยู่ สภาพไม่ทนทานอยากเปลี่ยนแว่นใหม่ โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่าอยู่ในเรือนจำทำอะไรบ้าง ผอ.กอล์ฟกล่าวว่า สอนหนังสือให้เด็กครับ

ทั้งนี้ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยยื่นฎีกา ขอให้ศาลลดโทษ  โดยอ้างเหตุผลประกอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการกระทำอย่างอุกอาจในห้างสรรพสินค้าอันเป็นที่สาธารณะกระทำต่อผู้บริสุทธิ์มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน รวม4 คนซึ่งไม่เกี่ยวข้องด้วย อันเป็นพฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ จำเลยเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนควรมีจิตสำนึกที่ดี ให้สมกับมีอาชีพเป็นครู ควรประพฤติตัวให้เป็นเยี่ยงอย่างกลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์ ที่จำเลยขอความปรานีจากศาลเพื่อลดโทษให้  จึงไม่มีเหตุสมควร ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo