General

สะพรึง!! ฝุ่นพิษ PM2.5 ทำภาคเหนือเสียชีวิตด้วยมะเร็งปอดมากที่สุดในประเทศ

“หมอชูชัย” เผยภาคเหนือเสียชีวิตด้วยมะเร็งปอดมากที่สุดในประเทศ สะท้อนฝุ่นพิษ PM2.5 พร้อมแนะวิธีป้องกัน

นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท โพสต์เพจเฟซบุ๊ก ติดตามการปฏิรูปประเทศกับหมอชูชัย ถึงภัยจากฝุ่นพิษ PM2.5 โดยระบุว่า

ฝุ่นพิษ PM2.5

ข้อมูลชี้ชัด!! ภาคเหนือเสียชีวิตด้วยมะเร็งปอดมากที่สุดในประเทศ

จากสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ที่มีค่าสูงในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มาอย่างต่อเนื่องยาวนานนับเดือน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเป็นวงกว้าง ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคร้ายแรงเช่น มะเร็งปอด

จากข้อมูลการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดจากมรณบัตร กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ภาคเหนือ มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดสูงกว่าภาคอื่นๆของประเทศ หรือประมาณ 31.4 ราย ต่อแสนประชากร ในปี 2563 ขณะที่อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเฉลี่ยทั่วประเทศเท่ากับ 22.6 รายต่อแสนประชากร

มะเร็งปอด

PM 2.5 คืออะไร ทำไมจึงอันตราย

PM 2.5 คือฝุ่นละอองจิ๋วที่มีขนาดเล็กมาก เล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือเล็กกว่าเส้นผม 40 เท่า โดยปกติแล้วร่างกายจะมีกลไกการกรองฝุ่นละอองในอากาศ เช่น ขนจมูก น้ำมูก สารคัดหลั่งต่าง ๆ ที่จะดักจับฝุ่นละอองเอาไว้ก่อนที่อากาศจะเข้าไปสู่ถุงลมในปอด

แต่ฝุ่น PM 2.5 นั้นมีขนาดเล็กกว่าที่กลไกของร่างกายจะดักจับไว้ได้ จึงทำให้สามารถเข้าสู่ถุงลมในปอดได้โดยตรง ทำให้ปอดสัมผัสกับสารพิษ สารก่อมะเร็งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ จนทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และมะเร็งปอดในที่สุด

ปลอดฝุ่น

ราจะป้องกันตนเองจาก PM 2.5 ได้อย่างไร

1. ควรอยู่ในบ้านหรือในอาคาร ลดการสัมผัสฝุ่นโดยตรง

2. ปิดประตู-หน้าต่างให้มิดชิด ร่วมกับการใช้เครื่องฟอกอากาศ (ถ้ามี)

3. สวมใส่หน้ากากเมื่อต้องออกจากอาคาร โดยหน้ากาก N95 มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5ได้ดีที่สุด ขณะที่หน้ากากอนามัยจะมีประสิทธิภาพรองลงมา ส่วนหน้ากากชนิดฟองน้ำและหน้ากากผ้า ไม่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้

4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง

5. ดื่มน้ำมากๆ

6. ลดการก่อมลพิษในอากาศ เช่น งดการเผาในที่โล่ง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่สูบบุหรี่

7. กลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก,ผู้สูงอายุ,หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจควรดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ

ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ยังคงวิกฤติ และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ประชาชนจึงควรตระหนักถึงพิษภัยของ PM 2.5 และเรียนรู้วิธีการที่จะป้องกันตนเองให้ดีที่สุด

ภาพประกอบและข้อมูล จาก กองยุทธศาสตร์และแผนงาน, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, Rocket Media lab และโรงพยาบาลนครพิงค์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo