General

ข่าวดีนักเรียน สังกัด สพฐ.-เอกชน กรุงเทพมหานครถกสปสช. จ่อขยายผลตรวจคัดกรองสายตาเด็ก

กรุงเทพมหานคร-สปสช. เตรียมขยายผลตรวจคัดกรองสายตาเด็กโรงเรียนสังกัด สพฐ. และเอกชน ล่าสุดตรวจคัดกรองโรงเรียนสังกัด กทม. เสร็จหมดแล้ว

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 ร่วมกับ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และกรุงเทพมหานคร ออกหน่วยตรวจคัดกรองสายตาเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติและตัดแว่นตาเด็กนักเรียน ณ โรงเรียนตั้งพิรุฬห์ธรรม เขตทวีวัฒนา กทม. ตามโครงการ เด็ก กทม. สายตาดี ตัดแว่นฟรี

ตรวจคัดกรองสายตาเด็ก

นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า เด็กยุคปัจจุบันใช้เวลากับโซเชียลมีเดียเยอะ ต้องใช้สายตาในการแพ่งหน้าจอ ทำให้มีปัญหาสายตาค่อนข้างมาก

สำหรับกระบวนการตรวจคัดกรอง จะเน้นที่เด็กชั้น ป.1 และช่วงอายุ 3-12 ปี โดยครูหรือศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ทำการคัดกรองเบื้องต้น และส่งเด็กที่สงสัยว่ามีสายตาผิดปกติมารับการตรวจอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์อีกครั้ง

จากนั้นจะแยกว่าความผิดปกติของสายตาเป็นแบบใด สายตาสั้น สายตายาว สายตาเข เป็นต้น เมื่อคัดแยกแล้วก็จะพิจารณาแนวทางการรักษา

ในการออกหน่วยเชิงรุกเช่นนี้ จะเป็น one stop service หากเป็นสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง นักทัศนมาตรก็จะตรวจวัดแว่นเพื่อแก้ปัญหาสายตาให้เลย

 

อย่างไรก็ดี หากเป็นความผิดปกติที่แว่นตาไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น สายตาเข สายตาเขซ่อนเร้น หรือสายตาผิดปกติอื่นๆ ได้หารือกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ว่า คุณครูจะแจ้งผู้ปกครอง ให้พาเด็กไปที่หน่วยบริการในเขตนั้น ๆ เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข

สปสช

หากสามารถรักษาโดยการหยอดตาก็จะรักษาให้เลย โดยใช้เวลา 6 เดือน – 1 ปี จนกว่าสายตาจะดีขึ้น แต่เด็กบางรายที่ศูนย์บริการสาธารณสุขรักษาไม่ได้ ก็จะส่งต่อไปโรงพยาบาลที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาต่อไป

ด้าน นพ.สุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม. มีโรงเรียนจากทุกสังกัด 884 แห่ง เด็กนักเรียนรวมประมาณ 4.1 แสนคน

จากสถิติคาดว่า จะมีเด็กที่สงสัยว่าสายตาผิดปกติประมาณ 3 หมื่นคน และเด็กกลุ่มนี้ก็จะถูกตรวจอย่างละเอียด เพื่อตัดแว่นตาหรือแก้ปัญหาสายตาอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายเด็กที่ได้รับแว่นตาประมาณ 2 หมื่นคน

ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองสายตาเด็กเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี ปัจจุบันโรงเรียนสังกัด กทม. 431 แห่ง ได้ทำการคัดกรองเบื้องต้นไปหมดแล้ว และมีเด็กได้รับแว่นตาแล้วประมาณ 7,000 คน

อย่างไรก็ดี ยังเหลือกลุ่มเด็กโรงเรียนเอกชน 413 และโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อีก 40 กว่าแห่ง ที่ต้องร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเข้าไปตรวจ เพื่อให้ได้มาซึ่งตัวเลขเด็กที่มีปัญหาสายตา

ล่าสุดได้หารือกับ สพฐ. ว่า อาจต้องหาคลินิกชุมชนอบอุ่นที่มีศักยภาพ หรือคลินิกจักษุแพทย์ เข้ามาช่วยในการตรวจคัดกรองด้วย เพราะถ้าร่วมมือกันหลายๆหน่วยงาน จะทำให้การคัดกรองสายตาเด็กมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ส่ยตาเด็ก

ด้าน ทพญ.น้ำเพ็ชร ตั้งยิ่งยง ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม. มีโรงพยาบาล 14 แห่งที่ร่วมดูแลการตรวจคัดกรองสายตาเด็ก อย่างไรก็ดีเมื่อคัดกรองเบื้องต้นแล้ว การจะให้เด็กที่สงสัยว่าสายตาผิดปกติไปหาจักษุแพทย์ค่อนข้างลำบากในการเดินทาง

สปสช. จึงทำโครงการตรวจคัดกรองเชิงรุก มีจักษุแพทย์และนักทัศนมาตร เข้าไปตรวจถึงโรงเรียน โดยขณะนี้มี 5 โรงพยาบาลที่ดำเนินการตรวจเชิงรุก ซึ่งรวมถึงสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีที่ออกหน่วยที่โรงเรียนตั้งพิรุฬห์ธรรมในครั้งนี้ด้วย

ในส่วนของโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนสังกัด สพฐ. ก็จะดำเนินการในลักษณะเดียวกัน คือจะต้องนำผลการตรวจคัดกรองเบื้องต้นมาดูก่อนว่าสามารถตรวจคัดกรองไปแล้วมาน้อยเพียงใด และ สปสช. จะนำข้อมูลนี้มาแจกหน่วยคัดกรองเชิงรุกเพื่อวางแผนเข้าไปตรวจอย่างละเอียด โดยจักษุแพทย์และนักทัศนมาตร

อย่างไรก็ตาม หน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุก 5 แห่งที่ดำเนินการในปัจจุบัน ก็ยังไม่เพียงพอกับปริมาณเด็กที่ต้องรับการตรวจ เฉพาะโรงเรียนสังกัด กทม. ก็มียังมีจำนวนกลุ่มเป้าหมายเดิมที่ยังตรวจไม่หมด ดังนั้น สปสช. ยังต้องการโรงพยาบาลที่สามารถจัดหน่วยตรวจเชิงรุกได้เพิ่มเติมอีก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo