Business

‘บัตรทอง’ สิทธิว่าง 1.9 แสนราย เฮ! กทม. จับมือ สปสช. จัดสรรสถานพยาบาลให้แล้ว

เฮ! กทม. จับมือ สปสช. จัดสรรสถานพยาบาลให้ “บัตรทอง” สิทธิว่าง 1.9 แสนรายแล้ว โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติระดับเขตพื้นที่ เขต 13 กรุงเทพมหานคร (อปสข.เขต 13 กทม.) ร่วมกันเปิดเผย เรื่องการลงทะเบียนประชาชนสิทธิบัตรทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำแบบอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

โดยรศ.ทวิดา กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ให้ความสำคัญต่อนโยบายดูแลสุขภาพประชากรในพื้นที่ และได้ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อจัดระบบบริการสุขภาพให้ประชาชน ได้เข้าถึงบริการอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ทั้งยังมีการเชื่อมโยงกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตsทอง 30 บาท ที่เป็นการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง

บัตรทอง

สิทธิบัตรทอง ยังไม่มีสถานบริการอีก 1.9 แสนราย

ทั้งนี้ จากกรณีปี 2565 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกเลิกสัญญากับสถานพยาบาลเอกชน จากปัญหาการเบิกจ่ายที่คลาดเคลื่อน ทำให้มีประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบรวมกว่า 6 แสนราย

ที่ผ่านมากรุงเทพนหานครได้ร่วมกับ สปสช. ในการจัดหาหน่วยบริการรองรับ แต่ด้วยจำนวนหน่วยบริการที่จำกัด ทำให้ยังคงมีผู้ที่เป็นสิทธิบัตsทองที่ยังไม่มีหน่วยบริการรองรับประมาณ 1.9 แสนคน

บัตรทอง

โมเดล 5 เข้าสถานพยาบาลใกล้บ้านในเครือข่ายได้ทุกแห่ง

กรุงเทพมหานครและ สปสช. ได้ร่วมหารือ เพื่อวางแนวทางดำเนินการแก้ปัญหา ไม่ให้ประชาชนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบ โดยสนับสนุนแนวคิดการจัดสรรประชากรสิทธิบัตsทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำ “โมเดล 5” ที่เปิดให้ผู้ใช้สิทธิสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายได้ทุกแห่ง

ให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพดี ใกล้บ้าน โดยมี “คลินิกชุมชนอบอุ่นใกล้บ้านใกล้ใจ” ร่วมให้บริการครบวงจร ทั้งด้านการรักษาพยาบาล บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ตลอดจนถึงบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์

รูปแบบของการจัดเครือข่ายบริการโมเดล 5 นี้ ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และเวลาในการเดินทางระยะไกล รวมทั้งลดความแออัดในสถานพยาบาลขนาดใหญ่

โดยกรุงเทพมหานครได้จัดเครือข่ายหน่วยบริการรับส่งต่อในระดับทุติยภูมิ ตามพื้นที่เขตโชนของกรุงเทพมหานคร (Bangkok Health Zoning) เพื่อสร้างความครอบคลุมการดูแลสุขภาพคนกรุงเทพฯ อย่างครบวงจร

บัตรทอง

จัดสรรหน่วยบริการแบบอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนสถานพยาบาลในกรุงเทพฯ ที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. มีจำนวนมากขึ้น สามารถรองรับประชาชนสิทธิบัตsทอง ที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำได้แล้ว

โดยการลงทะเบียนในครั้งนี้ สปสช.ได้ดำเนินการในรูปแบบหรือโมเดล 5 ที่มีศูนย์บริการสาธารณสุข 56 แห่ง เป็น Efficient Area Manager หรือผู้จัดการระบบบริการสาธารณสุขในพื้นที่อย่างมีศักยภาพ โดยจะทำหน้าที่ให้เหมือนโรงพยาบาลประจำเขต ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ของตน ร่วมกับคลินิกชุมชนอบอุ่น 113 แห่ง และเครือข่ายโรงพยาบาลรับส่งต่อทั่วทั้ง กทม.

ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนสิทธิบัตรทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำที่เหลืออยู่จำนวน 195,158 ราย ได้มีสถานพยาบาลประจำตัว สปสช.จึงดำเนินการลงทะเบียนและจัดสรรหน่วยบริการแบบอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

โดยระบบจะพิจารณาจากข้อมูลที่อยู่ตามทะเบียนบ้านหรือที่พักอาศัย ในกรณีที่พื้นที่นั้นมีหน่วยบริการหลายแห่ง ระบบจะจัดสรรให้หน่วยบริการที่อยู่ในเครือข่ายหน่วยบริการที่ใกล้ที่สุด จำนวน 8,000 – 10,000 คน/หน่วยบริการ

ซึ่งผู้มีสิทธิที่พักอาศัยในบ้านหรือครัวเรือนเดียวกัน ก็จะให้ลงทะเบียนไปที่หน่วยบริการเดียวกัน โดยประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิและหน่วยบริการ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1330

337878696 1560022951155161 7000771042876176370 n

เลือกหน่วยบริการเหมาะกับผู้มีสิทธิมากที่สุด  

ด้าน นพ.สุวิทย์ กล่าวว่า การจัดสรรหน่วยบริการประจำแก่ผู้มีสถานะสิทธิว่าง ไม่ใช่แค่การใส่ชื่อผู้มีสิทธิเข้าไปอยู่กับหน่วยบริการปฐมภูมิเท่านั้น แต่ระบบจะพิจารณาจากปัจจัยรอบด้าน เพื่อให้หน่วยบริการที่เลือกให้นั้นเหมาะกับผู้มีสิทธิมากที่สุด  และให้สอดคล้องกับระบบบริการแบบใหม่ ที่ในแต่ละพื้นที่จะมีหน่วยบริการปฐมภูมิหลายแห่งทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย โดยมีศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. เป็นแม่ข่าย (โมเดล 5) ที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ อปสข. ปี 2566-2567

ซึ่งเน้น 3 เรื่องหลัก คือ พัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ และงานสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ระบบบริการทุติยภูมิ-ตติยภูมิ และการเข้าถึงบริการของกลุ่มเปราะบาง ซึ่งในระบบบริการตามโมเดล 5 นี้ ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม.จะเป็น Efficient Area Manager หรือผู้จัดการระบบบริการสาธารณสุขในพื้นที่อย่างมีศักยภาพ โดยจะทำหน้าที่ให้เหมือนโรงพยาบาลประจำเขตในการดูแลประชาชนในพื้นที่ของตน

เช่น การเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง และการดูแลผู้ป่วยระยะกลาง รวมทั้งการลงทะเบียนประชาชนต่างจังหวัดที่อาศัยใน กทม. ให้มีสถานพยาบาลประจำอยู่ใน กทม. เพื่อให้ได้รับบริการสาธารณสุขที่สถานพยาบาลใกล้ที่พักอาศัยในปัจจุบัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo