กรมการขนส่งทางบก เผยผลการตรวจรถควันดำทั่วประเทศ มีรถถูกพ่นข้อความ “ห้ามใช้” 865 คัน แนะวิธีตรวจเช็กและดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและสุขอนามัยของประชาชน หนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากควันดำท่อไอเสียของรถยนต์ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน
กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) มิได้นิ่งนอนใจในปัญหาดังกล่าว ได้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำ และวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด
การปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่ารถควันดำ
1. การตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำ ระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกิน 30% จากเดิม 45%
2. การตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำ ระบบกระดาษกรอง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกิน 40% จากเดิม 50%

สำหรับเกณฑ์การตรวจควันดำใหม่ มีผลบังคับใช้กับการตรวจวัดควันดำรถที่มาดำเนินการตรวจสภาพรถก่อนจดทะเบียน หรือตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีประจำปีที่สำนักงานขนส่ง และสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่งแล้ว
ขณะเดียวกัน ขบ. ได้จัดผู้ตรวจการ ออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุก และรถโดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการตรวจวัดควันดำบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ พร้อมทั้งติดตามการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายของผู้ตรวจการในการออกตรวจวัดควันดำอย่างต่อเนื่อง
ผลการตรวจสอบ วัดควันดำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565-13 มีนาคม 2566 กองตรวจการขนส่งทางบก ได้ตรวจรถบรรทุกและรถโดยสารทั้งหมด 55,216 คัน มีรถที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ ห้ามใช้ 274 คัน
ส่วนผลการตรวจสอบรถควันดำทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565-13 มีนาคม 2566 สำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจควันดำ รถบรรทุกและรถโดยสาร 115,699 คัน มีที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ ห้ามใช้ 865 คัน
วิธีตรวจเช็กและดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น
1. ให้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่
2. เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง ตามระยะเวลา
3. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา
4. ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง
5. ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดัน
กรณีตรวจวัดควันดำด้วยระบบวัดความทึบแสงแล้วมีค่าควันดำเกิน 30% หรือตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรองแล้วมีค่าควันดำเกิน 40% จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ ห้ามใช้ จนกว่าเจ้าของรถจะนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คุมเข้ม ‘ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ’ ต้นตอ ‘PM2.5’ บังคับใช้บทลงโทษสูงสุด
- เรื่องจริง!! ขับรถควันดำ เจอปรับสูงสุด 5,000 บาท ตัวการเพิ่ม PM 2.5
- นายกฯ ขอความร่วมมือ แก้ปัญหา ‘PM2.5’ งดเผาพื้นที่เกษตร-เผาหาของป่า เข้มตรวจรถควันดำ