เผยเด็ก 2.6 ล้านคน อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ‘PM2.5’ กรมอนามัย จับมือ สสส. WHO ขับเคลื่อน ‘ห้องปลอดฝุ่น’ นำร่องในศูนย์เด็กเล็ก 30 แห่ง
วันนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2566) นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง นวัตกรรมห้องปลอดฝุ่นและขับเคลื่อนชุมชน เพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ จากฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
นายแพทย์อรรถพล กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่นละอองมีค่าเกินมาตรฐานจนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน จากฐานข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 การเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจในประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย
อย่างไรก็ดี การเจ็บป่วยเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ และมีความสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อคุ้มครองสุขภาพประชาชน
เด็กเล็ก กลุ่มเปราะบาง
กระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับปฏิบัติการโดยหนึ่งในมาตรการที่สำคัญ คือ การผลักดันให้มีการจัดทำ “ห้องปลอดฝุ่น” ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพในช่วงที่มี PM2.5 สูง
ทั้งนี้ ห้องปลอดฝุ่น มีหลักการคือ “กันฝุ่นเข้า กรองฝุ่นภายในห้อง และดันฝุ่นออก” ซึ่งสามารถทำได้ทั้งที่บ้านและสถานที่สาธารณะทั่วไป โดยเฉพาะศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เนื่องจากเด็กมีอัตราการหายใจถี่กว่าผู้ใหญ่ รวมถึงปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของปอดและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
เด็ก 2.6 ล้านคน อยู่ในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นพิษ
ปัจจุบันพบว่ามีเด็กอายุ 0 – 6 ปี กว่า 2.6 ล้านคน อยู่ในพื้นที่เสี่ยงจาก PM2.5 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จับมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำโครงการขับเคลื่อนห้องปลอดฝุ่นฯ โดยการพัฒนาแนวทางและต้นแบบห้องปลอดฝุ่น ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 30 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และขยายผลสู่สถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงจากมลพิษทางอากาศ
รวมถึงได้มีการจัดทำแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลห้องปลอดฝุ่น เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถค้นหาห้องปลอดฝุ่นในพื้นที่ใกล้เคียง และสืบค้นองค์ความรู้ต่างๆ ได้
นอกจากนี้ ยังร่วมกับกับภาคีเครือข่าย หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา ชุมชน และเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมการจัดทำห้องปลอดฝุ่น แนวทางการขับเคลื่อนชุมชนอย่างมีส่วนร่วม เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและร่วมจัดการปัญหาอย่างยั่งยืน
ห้องปลอดฝุ่น ลดเสี่ยง PM2.5
นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า มลพิษทางอากาศมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย พบว่า อยู่ในระดับสีแดง
ดังนั้น เพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจาก PM 2.5 สสส. จึงสานพลังกับ กรมอนามัย เปิดตัว “ห้องปลอดฝุ่น” ซึ่งเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อลดโอกาสการสัมผัสมลพิษทางอากาศภายในอาคาร ในภาวะที่เกิดฝุ่นละอองสูงในบรรยากาศ ช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
โดยจะเริ่มสร้างต้นแบบที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่เสี่ยง และจะขยายความร่วมมือในสถานที่ที่มีกลุ่มเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศต่อไป
ดร.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย (WHO Thailand) กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีการดำเนินงานอย่างเข้มแข็งในการรับมือกับมลพิษทางอากาศ เพื่อลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากสาเหตุดังกล่าวตามเป้าหมายวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG)
ในปีนี้ WHO ร่วมกับกรมอนามัย ดำเนินการรวบรวมและเผยแพร่ Best Practice ทั้งนวัตกรรมห้องปลอดฝุ่น และแนวทางการขับเคลื่อนชุมชนที่มีการจัดการและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพที่ดี เพื่อเป็นแนวทางให้แก่พื้นที่และประเทศอื่นๆ ต่อไป
อ่านข่่าวเพิ่มเติม
- สกัด ‘หมอกควันข้ามแดน’ ไทยร่อนหนังสือถึงประเทศเพื่อนบ้าน ให้ควบคุม ‘จุดความร้อน’
- ‘PM 2.5’ ทั่วไทยวันนี้ เกินมาตรฐาน 16 จังหวัด กรุงเทพ-ภาคตะวันออก มาแรง
- สวมหน้ากากอนามัยด่วน! กรุงเทพวันนี้ ‘PM 2.5’ เกินมาตรฐาน 32 พื้นที่ ระดับมีผลต่อสุขภาพ เช็กเลย