เช็ก 6 ข้ออ้าง สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพ สุ่มเบอร์โทรศัพท์หาเหยื่อ เจอแบบนี้ต้องรีบวางสาย
โทรเข้ามากันไม่หวาดไม่หวั่น สำหรับสายเรียกเข้าที่อาจจะเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้หลงเชื่ออยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งมิจฉาชีพมักจะสุ่มเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อหาเหยื่อ หลังจากนั้นจะพูดคุยโน้มน้าว หรือข่มขู่ให้เหยื่อตกใจ จนเกิดการหลงเชื่อ และโอนเงินให้มิจฉาชีพในที่สุด โดยข้ออ้างส่วนใหญ่ที่มิจฉาชีพมักใช้จะหลอกเหยื่อมีดังนี้
1. บัญชีเงินฝากถูกอายัด/หนี้บัตรเครดิต : มิจฉาชีพจะขออายัดบัญชีเงินฝากของเหยื่อ อ้างว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต หลอกให้เหยื่อตกใจ รีบโอนเงินมาให้
2. บัญชีเงินฝากพัวพันกับการค้ายาเสพติด หรือการฟอกเงิน : มิจฉาชีพ จะอ้างว่าบัญชีเงินฝากของเหยื่อเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย หลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่เตรียมไว้ โดยอ้างว่าจะทำการตรวจสอบ
3. เงินคืนภาษี : มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร แจ้งเหยื่อว่าได้รับเงินคืนภาษี โดยให้ยืนยันรายการตามคำบอกที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งแท้จริงแล้วกลับเป็นขั้นตอนที่มิจฉาชีพหลอกให้เหยื่อโอนเงิน
4. โชคดีได้รับเงินรางวัล : มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทต่างๆ แจ้งเหยื่อว่าได้รับเงินรางวัลหรือของรางวัลที่มีมูลค่าสูง หลอกให้เหยื่อโอนเงินค่าภาษีมาให้ก่อนรับรางวัล
5. ข้อมูลส่วนตัวหาย : มิจฉาชีพจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน อ้างว่าทำข้อมูลของเหยื่อสูญหาย เพื่อขอข้อมูลของเหยื่อใหม่ หลังจากนั้นจะนำไปปลอมแปลงหรือใช้บริการทางการเงินแทน
6. โอนเงินผิด : มิจฉาชีพจะติดต่อไปยังสถาบันการเงินของเหยื่อ เพื่อขอสินเชื่อแทนเหยื่อ เมื่อสถาบันการเงินอนุมัติและโอนเงินเข้าบัญชีให้เหยื่อแล้ว มิจฉาชีพจะโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ อ้างว่าโอนเงินผิดบัญชี หลอกให้เหยื่อโอนเงินดังกล่าวคืนให้
ขอบคุณข้อมูล ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทยAnti-Fake News Center Thailand
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อีกแล้ว! มิจฉาชีพหลอกดูดเงิน ‘ธุรกิจต่างชาติ’ อ้างอัพเดตข้อมูลนิติบุคคล ชี้เสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
- ‘แอดไวซ์’ เตือนภัย มิจฉาชีพอ้างชื่อ ใช้ส่วนลดล่อใจ หลอกข้อมูลส่วนตัว
- ‘คลัง’ เตือนภัย มิจฉาชีพแอบอ้างธุรกิจปล่อยเงินกู้ แนะเช็คข้อมูลก่อนทำธุรกรรม