“สันธนะ” บุกดีเอสไอมอบเอกสารและภาพถ่าย 100 แผ่น เอาผิดเครือข่าย “เอ็ดดี้” อ้างเชื่อมโยงแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ชื่อดัง
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายและเอกสารของเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับนายพันธรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือ “เอ็ดดี้” ผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดและเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในประเทศ ซึ่งขณะนี้หลบหนีไปยังต่างประเทศ พร้อมกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับบริษัทแพลตฟอร์มซื้อขายสลากออนไลน์ชื่อดังที่ถูกดีเอสไอ เรียกตัวเข้ามาสอบปากคำเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอทราบนโยบายและแนวทางสั่งการทางคดี
นายสันธนะ กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานเป็นเอกสารหลักฐานและภาพถ่ายอีก 100 แผ่น ซึ่งนำมามอบให้ดีเอสไอเพิ่มเติมจากของเดิมที่มอบให้ก่อนหน้านี้ 500 แผ่น พร้อมกันนี้ ในการแถลงข่าวนายสันธนะ ยังได้นำภาพถ่ายมาโชว์สื่อมวลชน ระบุว่าเป็นหลักฐานส่วนหนึ่งที่นำมามอบให้ดีเอสไอด้วย ซึ่งนายสันธนะ อ้างว่าบุคคลในภาพมีนายสีสุก ดาวเฮือง ชาวลาว คู่กับบิ๊กตำรวจ นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายของนายเอ็ดดี้ กับนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาชาวลาวในคดียาเสพติด ที่ตำรวจบช.ปส. จับกุมตัวเมื่อปี 2560 ซึ่งทั้งคู่เป็นเครือข่ายยาเสพติดเดียวกัน และยังมีบุคคลที่กำลังจะซื้อสโมสรฟุตบอลในภาคใต้อยู่ในเครือข่ายนี้ด้วย
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า เมื่อ นายไซซะนะ ถูกตำรวจจับกุม ทำให้นายเอ็ดดี้ เข้าไปถือครองทรัพย์สินต่างๆ แทน และนำไปฟอกเงินในขบวนต่างๆ ทั้งรูปแบบของการเปิดเว็บพนันออนไลน์ , การซื้อรถซุปเปอร์คาร์ , การซื้อบ่อนคาสิโนของนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีภาพถ่ายร่วมงานปาร์ตี้นำรถซุปเปอร์คาร์เข้ามาร่วมแสดงในงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนมีข้อมูลของรถหรูแต่ละคันและผู้ถือครอง ซึ่งได้นำมามอบให้ดีเอสไอในวันนี้ด้วย
“นอกจากนี้ ยังมี น.ส.จอยผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีชักชวนเล่นการพนันออนไลน์และคดียาเสพติดเครือข่ายของนายเอ็ดดี้ โดยเจ้าตัวมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินเงินทองของเครือข่าย และเป็นสาวคนสนิทของนายเอ็ดดี้ ทั้งนี้ นายสันธนะ ระบุว่าขณะนี้ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล 200,000 บาท ซึ่งมีข้อมูลว่าหลังการเข้าจับกุม น.ส.กัลยาวีร์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับผลประโยชน์เงิน 100 ล้านบาทแลกกับการทำสำนวนให้อ่อนเพื่อให้ศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้
นายสันธนะ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของซีอีโอแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ ซึ่งถูกดีเอสไอเรียกเข้ามาสอบปากคำก่อนหน้านี้ และเจ้าตัวอ้างว่าไม่รู้จักหรือรู้จักเอ็ดดี้เล็กน้อยเท่านั้น แต่จากพยานหลักฐานภาพถ่ายที่ตนนำมามอบให้ดีเอสไอวันนี้จะเห็นว่าซีอีโอคนดังกล่าวกับกลุ่มเครือข่ายของนายเอ็ดดี้ อยู่ร่วมกันในงานปาร์ตี้ และยังมีภาพในระหว่างการเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ท บริเวณสนามบิน จึงอยากถามไปถึงซีอีโอคนดังกล่าวว่ารู้จักกันเพียงเล็กน้อยจริงหรือ จึงอยากให้ดีเอสไอนำข้อมูลภาพถ่ายดังกล่าวไปใช้ในการสอบสวนดำเนินคดี เพราะเชื่อว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวถูกใช้ในการฟอกเงินของเครือข่ายนายเอ็ดดี้
อย่างไรก็ตาม พยานหลักฐานที่มอบให้ดีเอสไอในวันนี้ ตนตั้งใจจะให้ใช้ในการสอบสวนดำเนินคดีและตนเองอยากทราบว่าขณะนี้ทางดีเอสไอมีแนวทางการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าวอย่างไรและจะอายัดทรัพย์ของเครือข่ายดังกล่าวอย่างไรบ้าง หรือจะปล่อยให้เดินลอยหน้า ลอยตาในสังคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไฟเขียวตั้งนิคมอุตสาหกรรม ‘EEC-ลำพูน’ รวมกว่า 6,000 ล้าน ดึงนักลงทุนนอก
- กรมพัฒน์ฯ แจงยิบ ชาวจีนขายอาหารเยาวราช ทำไม่ได้ คนไทยเป็นนอมินีผิดด้วย
- ‘ดีเอสไอ’ สอบเพิ่มเส้นทางเงิน ‘นอท กองสลากพลัส’ 1,090 ล้านบาท
