General

ครม.เคาะมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดหลังพ้นโทษ ป้องกันทำผิดซ้ำ!

ครม.เคาะมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาด หลังพ้นโทษคดีเกี่ยวกับเพศ สอดรับ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำที่มีผลบังคับใช้ 23 มกราคมนี้

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 จะมีผลบังคับใช้วันที่ 23 มกราคม 2566

นักโทษเด็ดขาด

มาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาด

ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน สำหรับนักโทษเด็ดขาดซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย และความผิดต่อเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา เช่น การข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำความผิดทางเพศกับเด็ก การฆาตกรรม การทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส

รวมทั้งการนำตัวบุคคลไปเรียกค่าไถ่ เพื่อป้องกันสังคมและผู้เสียหายจากการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นอีก รวมถึงได้กำหนดกระบวนการก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดดังกล่าว โดยให้กรมราชทัณฑ์จัดทำรายงานจำแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาด พร้อมทั้งความเห็นว่านักโทษเด็ดขาดสมควรให้ใช้มาตรการเฝ้าระวังใด เสนอต่อคณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เพื่อกำหนดมาตรการเฝ้าระวังนักโทษแล้วเสนอต่ออัยการ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

นักโทษเด็ดขาด
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 ครม. จึงมีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิจารณามาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการกำหนดกลไกในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิจารณามาตรการเฝ้าระวังต่าง ๆ ก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง มีรายละเอียด อาทิ

นักโทษเด็ดขาด
รายละเอียดมาตรการเฝ้าระวัง

1. ร่างกฎกระทรวงมีขอบเขตการบังคับใช้ สำหรับนักโทษเด็ดขาดซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย และความผิดต่อเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนี้

  1. ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น การข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี การพาบุคคล อายุ 15-18 ปี เพื่อการอนาจาร การพาผู้อื่น ไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ
  2. ผู้กระทำความผิดต่อชีวิต เช่น การฆ่าผู้อื่น การฆ่าผู้อื่นโดยเหตุฉกรรจ์
  3. ผู้กระทำความผิดต่อร่างกาย เช่น การทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัสโดยเหตุฉกรรจ์
  4. ผู้กระทำผิดต่อเสรีภาพ เช่น การนำตัวบุคคลไปเรียกค่าไถ่

2. กำหนดให้มีคณะกรรมการประจำเรือนจำในแต่ละเรือนจำ ประกอบด้วยผู้บัญชาการเรือนจำเป็นประธานกรรมการ และเจ้าพนักงานเรือนจำ ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำแต่งตั้ง จำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน เป็นกรรมการ โดยคณะกรรมการประจำเรือนจำ มีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณากลั่นกรองข้อมูลการจัดทำรายงานการจำแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาดตามที่เจ้าพนักงานเรือนจำเสนอ และให้ความเห็นว่านักโทษเด็ดขาดสมควรใช้มาตรการเฝ้าระวังใด ตลอดจนเสนอวิธีการและระยะเวลาในการใช้มาตรการที่เหมาะสม

3. การพิจารณากำหนดมาตรการเฝ้าระวัง กรมราชทัณฑ์ดำเนินการภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดแต่ละราย ให้เจ้าพนักงานเรือนจำดำเนินการรวบรวมข้อมูลสำหรับการจัดทำรายงานการจำแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาด และให้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการประจำเรือนจำ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำพิจารณา

นักโทษเด็ดขาด

4. การดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังของพนักงานคุมประพฤติ กรณีที่ปรากฏเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้นั้นจะไปกระทำความผิดและไม่มีมาตรการอื่นที่อาจป้องกันไม่ให้ผู้นั้นไปกระทำความผิดได้ ให้พนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการภายใน 15 วัน เพื่อให้พนักงานอัยการพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งใช้มาตรการคุมขังแก่ผู้ถูกเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ

หากปรากฏเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกเฝ้าระวังจะไปกระทำความผิดซ้ำ และเป็นเหตุฉุกเฉิน คือ ผู้ถูกเฝ้าระวังมีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่าจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นโดยมีเครื่องมือ อาวุธ หรือวัตถุอย่างอื่น อันสามารถใช้ในการกระทำความผิด ให้พนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลในท้องที่ เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้คุมขังฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อยกเว้นการบังคับใช้ระยะเวลาในการจัดทำ และการเสนอรายงานการจำแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาดของกรมราชทัณฑ์ และการเสนอรายงานและความเห็นของคณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ ไม่ให้ใช้บังคับภายในระยะเวลา 300 วันแรก นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK