COVID-19

ระวัง!! ‘หมอธีระ’ เตือน ‘โควิด’ ระลอกนี้ไม่เล็ก เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด่วน!

ระวัง!! “หมอธีระ” เตือน “โควิด” ระลอกนี้ไม่เล็ก เร่งวัคซีนเข็มกระตุ้น ย้ำ! ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์โควิดล่าสุด ระบุว่า 30 พฤศจิกายน 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 421,311 คน ตายเพิ่ม 825 คน รวมแล้วติดไป 646,868,327 คน เสียชีวิตรวม 6,638,457 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ บราซิล และไต้หวัน

หมอธีระ

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 82.83% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 63.15%

…อัพเดต Long COVID ในเด็ก

Dumont R และคณะจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เผยแพร่ผลการวิจัยในวารสาร Nature Communications เมื่อวานนี้ 29 พฤศจิกายน 2565

โดยทำการสำรวจปัญหาอาการผิดปกติของ Long COVID และทำการตรวจเลือดหาแอนติบอดี้ที่บ่งถึงการที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน ในประชากรวัยเด็กอายุ 6 เดือนถึง 17 ปี จำนวน 1,034 คน จาก 612 ครอบครัว ตั้งแต่ธันวาคม 2564-กุมภาพันธ์ 2565

สาระสำคัญที่พบคือ โดยรวมแล้วกลุ่มเด็กที่ตรวจพบแอนติบอดี้นั้นจะมีความชุกของภาวะ Long COVID มากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่พบแอนติบอดี้ ถึง 1.8 เท่า และเกิดได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง

หมอธีระ

ทั้งนี้จากการวิเคราะห์เชิงลึก พบว่า กลุ่มเด็กโตช่วงอายุ 12-17 ปีที่ตรวจพบแอนติบอดี้นั้นจะมีความชุกของปัญหา Long COVID สูงกว่ากลุ่มที่ไม่พบแอนติบอดี้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีความชุกต่างกันถึง 8.3% (ช่วงความเชื่อมั่น 3.5%-13.5%)
ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้านี้จากประเทศอื่น ๆ ว่า ภาวะ Long COVID เกิดขึ้นในเด็กด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กโต/วัยรุ่น พ่อแม่หรือผู้ปกครอง รวมถึงคุณครู จึงควรช่วยกันดูแล ป้องกัน และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่เชื้อในครอบครัว โรงเรียน และสถานศึกษาต่าง ๆ

หากเด็กติดเชื้อมาแล้ว หลังจากที่หายป่วยระยะแรก ก็ควรหมั่นประเมินสุขภาพของเด็ก ถ้ามีอาการผิดปกติ ก็ควรพาไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และให้การดูแลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

…สถานการณ์ของไทยเรานั้น มองรอบตัวย่อมทราบกันดีว่าเกิดการแพร่ระบาดกันมาก

การใช้ชีวิตประจำวัน ทำงาน เรียน จ่ายตลาด ออกกำลังกาย หรือท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ นั้น ควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท

ที่ใดแออัด เห็นคนไม่ป้องกันตัวมาก ระบายอากาศไม่ดี ก็ควรหลีกเลี่ยง ในที่ทำงาน หากแชร์ห้องแชร์สถานที่กัน ควรใส่หน้ากากเสมอ ไม่กินดื่มร่วมกัน สถานพยาบาล ต้องระวังการแพร่ทั้งในหมู่บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวในวอร์ดต่าง ๆ การตรวจคัดกรองโรคนั้นมีความจำเป็น

หมอธีระ

การไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นมีความสำคัญมาก

เหนืออื่นใด การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

…ไม่เล็กหรอกครับ เวฟนี้น่ะ… 

ไม่ควรลดทอน harm and risk perception เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อความรู้ความเข้าใจ และพฤติกรรมป้องกันตัวของประชาชนโดยรวม

อ้างอิง : Dumont R et al. A population-based serological study of post-COVID syndrome prevalence and risk factors in children and adolescents. Nature Communications. 29 November 2022.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK