โควิดขยับขึ้นอีกรอบ “หมอเฉลิมชัย” เผยเป็นผลมาจาก 6 สาเหตุ จับตาอีก 2-4 สัปดาห์ ถึงจะบอกได้ชัดว่า จะเกิดโควิดระลอกใหม่หรือไม่
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เรื่อง โควิดขยับขึ้นอีกครั้ง ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 8.8% เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 17.5%
สถานการณ์ประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ตุลาคมถึง 5 พฤศจิกายน 2565) โควิดขยับขึ้นทุกดัชนี เมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น (23 ถึง 29 ตุลาคม 2565) ดังนี้
ผู้ติดเชื้อแบบพีซีอาร์ เพิ่มขึ้นจาก 2515 รายต่อสัปดาห์ เป็น 2759 รายต่อสัปดาห์ เพิ่ม 8.8%
ผู้เสียชีวิต 33 รายต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 40 รายต่อสัปดาห์ เพิ่ม 17.5%
ผู้ป่วยอาการหนักปอดอักเสบ เพิ่มจาก 320 ราย เป็น 333 ราย เพิ่ม 3.9%
ผู้ป่วยหนักมากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพิ่มจาก 164 ราย เป็น 169 ราย เพิ่มขึ้น 2.9%
การขยับตัวเพิ่มดังกล่าว ยังคงต้องติดตามในสัปดาห์ต่อไป อีกอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ถึงจะบอกแนวโน้มที่ชัดเจนได้ว่า จะเกิดโควิดระลอกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระลอกเล็กหรือระลอกใหญ่ก็ตาม หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบกับสถานการณ์โควิดของประเทศในโลกตะวันตก ซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวและมีมาตรการถอดหน้ากากที่ผ่อนคลายอย่างมากและรวดเร็วกว่าเรา ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงนี้
จนบางรัฐของสหรัฐฯ และบางจังหวัดของแคนาดา ได้กลับมาใช้มาตรการให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยอีกครั้งแล้ว เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโควิด ไข้หวัดใหญ่ หรืออาร์เอสวี ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปกติในช่วงฤดูหนาวของประเทศตะวันตก ที่จะทำให้โรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น
แม้ในประเทศไทยเราเอง ฤดูหนาวจะไม่ได้หนาวเท่ากับประเทศตะวันตก แต่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งประเทศไทยก็เริ่มพบการขยับตัวเพิ่มขึ้นทั้งของ โควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ และอาร์เอสวีแล้ว
เหตุที่ประเทศไทย เริ่มมีผู้ป่วยโควิด 19 ขยับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เกิดจาก
1. การเข้าสู่ฤดูหนาว มี อุณหภูมิที่ต่ำลง เหมาะกับไวรัสทางเดินหายใจ
2. ประชาชนเริ่มออกมาพักผ่อนหย่อนใจ เดินทางท่องเที่ยว ในช่วงหน้าหนาวมากขึ้น เพราะอากาศเย็นสบาย และมีเทศกาลสำคัญหลายเทศกาลต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดความแออัดในสถานที่ต่างๆมากขึ้น
3. ประชาชนเริ่มใช้ชีวิตในการทำมาหากิน ศึกษาเล่าเรียน ที่ผ่อนคลายมากขึ้น
4. มีแนวโน้มที่วินัยในการป้องกันลดลง โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัย
5. เรายังฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 ได้น้อยคือ ประมาณ 46% ในขณะที่เข็ม 1-2 ฉีดได้ดีประมาณ 80%
6. ยังคงมีไวรัสเกิดกลายพันธุ์เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเข้าสู่ประเทศไทยด้วย
กล่าวโดยสรุป โควิดทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย อยู่ในช่วงขาลงนับตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา แต่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เริ่มมีการขยับตัวเพิ่มขึ้นของโควิด ซึ่งทำให้เราต้องระมัดระวังว่า อาจจะเกิดระลอกเล็ก หรืออาจจะเป็นระลอกใหญ่ได้ด้วย
การใส่หน้ากากอนามัย การหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดยัดเยียดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ยังคงมีความจำเป็น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยังไม่จบ! ‘ออสเตรเลีย’ เจอ ‘โควิด-19’ ระลอกใหม่ ลุ้นรัฐให้ฉีดวัคซีนเข็ม 5
- ‘อาจารย์หมอจุฬา’ ตอบชัด! สถานการณ์โควิดวางใจได้จริงหรือ?
- สถานการณ์โควิดรอบสัปดาห์ : ติดเชื้อรายใหม่ 2,759 ราย เสียชีวิต 40 ราย