COVID-19

เปิดรายละเอียดประกันภัย เรือสปีดโบ๊ท ระเบิดกลางทะเลชุมพร

คปภ. เปิดรายละเอียดประกันภัย กรณีเครื่องยนต์เรือสปีดโบ๊ท ระเบิดกลางทะเลจังหวัดชุมพร จี้เจ้าของเรือทำประกันคุ้มครอง เหตุหน้าฝน คลื่นลมแรง

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเรือสปีดโบ๊ท ลมหลักคีรินทร์ 18 หมายเลขทะเบียน 5843-06433 เกิดอุบัติเหตุห้องเครื่องเรือสปีดโบ๊ท ระเบิดกลางทะเล ห่างจากฝั่ง 4-5 กม. พิกัดทุ่งมะขามน้อย ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

เรือระเบิด

ทั้งนี้ ส่งผลให้พนักงานบนเรือและผู้โดยสาร ได้รับบาดเจ็บประมาณ 20 ราย แบ่งเป็น พนักงานขับเรือ 2 ราย นักท่องเที่ยว 18 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565

เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 8 (สุราษฎร์ธานี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดชุมพร ตรวจสอบการทำประกันภัยของเรือลำดังกล่าว พร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย

จากการรายงานพบว่า เรือสปีดโบ๊ท ลมหลักคีรินทร์ 18 เป็นของบริษัท ลมหลักคีรินทร์ ไฮสปีด เฟอร์รี่ จำกัด มีกรมธรรม์ประกันภัยผู้โดยสารเรือสำหรับโดยสารกับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 9 มีนาคม 2565 สิ้นสุดวันที่ 9 มีนาคม2566

สำหรับความคุ้มครอง กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จำนวน 100,000 บาท/คน และค่ารักษาพยาบาล จำนวน 15,000 บาท/คน

คปภ.

สำนักงาน คปภ.จังหวัดชุมพร ได้ประสานกับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) สาขาชุมพร ให้ดำเนินการตรวจสอบสิทธิและติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน และได้ประสานโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ โรงพยาบาลปากน้ำชุมพร โรงพยาบาลวิรัชศิลป์ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหาดทรายรี รวมทั้ง ทายาท/ผู้ประสบภัย เพื่อแจ้งสิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่

หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ

คปภ.2

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เป็นหน้าฝน คลื่นลมแรง คปภ. ขอรณรงค์ให้ผู้ประกอบการเรือและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางเรือ ตระหนักเห็นความสำคัญในการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงในการประกอบกิจการ และบริหารความเสี่ยงให้กับนักท่องเที่ยว

สำหรับเรือโดยสารหรือเรือประเภทอื่นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้บรรทุกผู้โดยสาร ซึ่งเป็นการบรรทุกผู้โดยสารตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป การวิ่งเรือต้องทำประกันภัยผู้โดยสารเรือสำหรับโดยสารภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามกฎกระทรวงคมนาคมฉบับที่ 73 (พ.ศ.2549) ออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็มีผู้บาดเจ็บที่เป็นพนักงานขับเรือและผู้โดยสารจำนวน 20 ราย ดังนั้นจึงขอฝากเตือนประชาชนให้ความสำคัญและหันมาทำประกันภัยกันให้มากขึ้น เพราะหากเกิดความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ระบบประกันภัยจะช่วยเหลือบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo