“ศิริราช” เผยผลวิจัยผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพิ่มภูมิคุ้มกันโอไมครอนได้ แนะฉีดโมเดอร์นาเข้าผิวหนัง ลดอาการข้างเคียง
ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Siriraj Institute of Clinical Research เปิดผลวิจัยการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ในกลุ่มผู้สูงอายุ พบมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการติดเชื้อโอไมครอน โดยระบุว่า
มาดูผลการศึกษาถึงการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ในผู้สูงอายุกันว่า มีจำเป็นแค่ไหนในการฉีดเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ
การตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน และความปลอดภัย ของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (เข็มกระตุ้น) ด้วยวัคซีนโมเดอร์นาหรือไฟเซอร์ ฉีดเข้าในชั้นผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 รุนแรง ดังนั้น การฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 มีความจำเป็นอย่างมากเพื่อป้องกันไวรัสโอไมครอนที่ระบาดโดยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
แต่ผู้สูงอายุอาจมีความกังวลต่ออาการข้างเคียงจากวัคซีน ส่งผลให้การยอมรับวัคซีนน้อยลง
การฉีดวัคซีนเข้าในชั้นผิวหนัง ที่ใช้วัคซีนปริมาณน้อย เพียง 1 ใน 5 ของขนาดเข้าในชั้นกล้ามเนื้อ และลดการเกิดผลข้างเคียง อาจทำให้มีการยอมรับที่ดีขึ้น
การศึกษาแบบเปิด และมีการสุ่มผู้สูงอายุตัวอย่างที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ที่เคยได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็ม จำนวน 210 ราย พบว่า ภายหลังจากที่ได้รับการฉีดกระตุ้น (เข็มที่ 3) ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนได้เกือบทั้งหมด
การฉีดเข้าในชั้นผิวหนัง ให้ภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่า แต่เกิดอาการข้างเคียงตามระบบน้อยกว่า
การฉีดเข้าในชั้นกล้ามเนื้อ โดยวัคซีนโมเดอร์น่าให้ระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าวัคซีนไฟเซอร์ และมีภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนสูงกว่า
ข้อสรุปสำคัญ พบว่า จำเป็นต้องให้ผู้สูงอายุฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จึงจะสามารถป้องกันโควิด-19 จากเชื้อโอไมครอนได้
การฉีดเข้าในชั้นผิวหนังให้ระดับภูมิคุ้มกันต่ำกว่าการฉีดเข้าในชั้นกล้ามเนื้อ แต่ระดับภูมิคุ้มกันที่ได้ยังค่อนข้างสูง โดยเฉพาะถ้าใช้วัคซีนโมเดอร์นา จึงอาจเป็นทางเลือกหากมีจำนวนของวัคซีนจำกัด และต้องการลดโอกาสเกิดอาการข้างเคียงตามระบบ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อัพเดทโอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ ระบาดแล้ว 21 ประเทศทั่วโลก ย้ำ!! วัคซีนเข็มกระตุ้นจำเป็น
- อียู ‘ปรับสูตรวัคซีน’ ครอบคลุม ‘โอไมครอน’ เริ่มฉีดเดือนก.ย. ป้องกันการระบาดครั้งใหม่ช่วงฤดูหนาว
- 4 เหตุผล ไม่ควรติด ‘โอไมครอน’ แม้อาการไม่รุนแรง