“อนุทิน” เผย สถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทยยังทรงตัว เตรียมพร้อม “เจอ แจก จบ” ดูแลกลุ่มอาการสีเขียว พร้อมเร่งฉีดวัคซีนลดความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง และเสียชีวิต โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ครบกำหนดฉีดเข็มกระตุ้นไปแล้ว 70% ยันระบบดูแลรักษามีความพร้อม หากติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ ทั้งเตียงพอ ยาพอ และหมอพอ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยยังทรงตัว ติดเชื้อประมาณวันละ 20,000 ราย หลังเทศกาลสงกรานต์ยังต้องติดตาม และเฝ้าระวังสถานการณ์การติดเชื้อต่ออีก 2 สัปดาห์
กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมรองรับการดูแลผู้ติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาการสีเขียว คือ ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย โดยมีระบบการดูแลแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักที่บ้าน หรือ เจอ แจก จบ ซึ่งสามารถรับบริการได้ในสถานพยาบาล และร้านยาที่เข้าร่วมโครงการของ สปสช. นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อเพื่อขอเข้าระบบ Home Isolation ได้เช่นกัน
“สิ่งสำคัญคือต้องลดผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง ที่จะมีความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตลงให้มีน้อยที่สุด โดยเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็มปกติ และเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง”
ส่วนกรณีติดเชื้ออาการรุนแรงได้เตรียมความพร้อมรองรับ 3 พอ คือ
1. เตียงพอ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่ติดเชื้อไม่มีอาการหรืออาการน้อย เข้าสู่ระบบการดูแลรักษาที่บ้าน ทำให้มีอัตราครองเตียงสีเหลือง และสีแดงในโรงพยาบาลประมาณ 30% และหากจังหวัดใดเริ่มมีอัตราครองเตียงสูงเกิน 50% จะมีการขยายเตียงรองรับเพิ่มขึ้น
2. ยาพอ โดยมีทั้งยารักษาตามอาการ ยาฟ้าทะลายโจร และยาต้านไวรัสต่างๆ คือ ฟาวิพิราเวียร์ เรมดิซิเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ และแพกซ์โลวิด ซึ่งผู้ป่วยทุกรายไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส บางส่วนหายเองได้ การใช้ยาจึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ในการเลือกจ่ายยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
3. หมอพอ มีบุคลากรทางการแพทย์พร้อมให้การดูแลรักษา โดยกระทรวงสาธารณสุขจะบริหารจัดการทั้ง 3 ด้าน ให้มีความเพียงพอเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
“วัคซีนโควิด-19 เข็มแรกสามารถฉีดได้ประมาณ 56 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 85% เหลือผู้ที่ยังไม่มารับการฉีดวัคซีน 9-10 ล้านคน ต้องเร่งรณรงค์ให้มารับวัคซีนเพิ่มขึ้น ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 39.7% ซึ่งไม่ถือว่าน้อย เพราะส่วนหนึ่งยังไม่ถึงกำหนดเข้ารับเข็มกระตุ้น โดยคนที่ถึงกำหนดฉีดเข็มกระตุ้นและได้รับการฉีดแล้วอยู่ที่ประมาณ 70%”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ แจงชัด! แพทย์เสนอ ‘โควิด’ โรคประจำถิ่น ไม่ใช่รัฐบาล รับยังกังวล
- ‘อนุทิน’ ยืนยัน ‘ยาฟาวิพิราเวียร์’ ไม่ขาดแคลน ลั่นขอให้เชื่อข้อมูลจาก ‘สธ.’
- ‘อนุทิน’ ย้ำชัด! แม้ปลด ‘โควิด’ ออกจากโรคฉุกเฉิน แต่รัฐยังรักษาตามปกติ