COVID-19

เช็คด่วน!! แบบไหนเข้าข่าย ‘ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง’ พร้อมวิธีปฏิบัติตัว

กรมควบคุมโรค จำแนกนิยาม “ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง” พร้อมแนะ 10 ข้อปฏิบัติดูแลตัวเองหากเข้าข่าย

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ประเภทผู้สัมผัส แบ่งได้เป็นหลายแบบ โดยประการแรกต้องดูก่อนว่า เป็นคนแพร่ หรือผู้สัมผัสที่อาจรับเชื้อจากผู้ป่วย หากเป็นกลุ่มผู้สัมผัส ต้องพิจารณาว่า เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด หรือผู้สัมผัสที่ไม่ถือว่าใกล้ชิด

ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง

ในกรณีของการเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด จะแบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำ โดยกลุ่มเสี่ยงต่ำ ก็ไม่เข้าตามเกณฑ์เสี่ยงสูง

ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ 1. สัมผัสเสี่ยงสูงในครัวเรือน คนในบ้าน 2. ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในสถานพยาบาล 3. ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในยานพาหนะ และ 4. ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในโรงเรียน ที่ทำงาน และในชุมชน

ทั้งนี้ ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณา กรณีเป็นบุคลากรทางการแพทย์ คือ ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือไม่ได้ใส่ชุด PPE โดยผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยก็จะรวมทั้งไม่ใส่ และใส่ไม่ถูกต้อง

กลุ่มสัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จะแบ่งเป็น

1. อยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ หรือเข้าข่ายติดเชื้อ หรือตั้งแต่วันเริ่มป่วยหรือภายใน 3 วันก่อนมีอาการป่วย

2. คนที่อยู่ใกล้กันพูดคุยกับผู้ติดเชื้อในระยะ 2 เมตรนานกว่า 5 นาที หรือถูกไอ จามใส่

3. อยู่ในสถานที่ปิด ไม่มีอากาศถ่ายเทมากนัก โดยอยู่ร่วมกับผู้ป่วยนานกว่า 30 นาที

สำหรับแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคสำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง เรียกว่า 7+3 โดยกักตัวที่บ้าน 7 วัน และสังเกตอาการตนเองอีก 3 วัน

ผู้สัมผัส

10 ขั้นตอนการดูแลตนเอง หากเข้าข่ายผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง

1. ตรวจสอบอาการตนเองหรือเช็คประวัติการสัมผัสใกล้ชิด หากเกิน 10 วันถือว่าจบ แต่หากอยู่ในช่วง 10 วัน อาจมีการสัมผัสมาได้ ต้องมาเช็กว่าใกล้ชิดอย่างไร ไม่สวมหน้ากากอนามัย พูดคุยกันหรือไม่ ฯลฯ

2. เมื่อเข้านิยามสัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ต้องปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention เน้นย้ำการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 100%

3. ให้กักตัวเองที่บ้าน (แยกเครื่องใช้ส่วนตัว สำรับอาหาร ไม่คลุกคลีใกล้ชิด งดทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัว และแจ้งทุกคนที่บ้านทราบด้วย) หากไม่สามารถแยกห้องนอนได้ ให้เว้นพื้นที่ให้มีระยะห่างเพียงพอ เน้นแยกห่างจากกลุ่มเสี่ยง 608 และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

4. ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ครั้งที่ 1 ตรวจวันที่ 5-6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย โดยอาจไปซื้อชุดตรวจจากร้านขายยา หรือลงทะเบียนรับชุดตรวจจากสถานพยาบาลใกล้บ้าน

5. หากตรวจ ATK ครั้งที่ 1 เป็นลบ ให้กักตัวเองที่บ้านจนครบ 7 วันและเริ่มขั้นตอนการสังเกตอาการตนเอง(นับจากวันที่สัมผัสผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย)

แนวทางปฏิบัติ

6. เฝ้าระวังสังเกตอาการ 3 วันหลังจาก 7 วันแรกไปแล้ว แต่เน้นเลี่ยงออกนอกบ้าน กรณีจำเป็นต้องไปทำงาน หรือไปภารกิจนอกบ้าน ขอให้เลี่ยงการใช้สถานที่สาธารณะ และขนส่งสาธารณะหนาแน่น แออัด งดร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคนจำนวนมาก

7. ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 นับจากวันสุดท้ายที่สัมผัสผู้ป่วยครั้งสุดท้าย หรือกลับจากสถานที่เสี่ยง

8. หากเป็นลบ ก็จบการกักตัว

9. หากผลตรวจ ATK เป็นบวก กรณีไม่มีอาการป่วยหรือป่วยเล้กน้อยให้โทร 1330 สปสช. ก็จะมีการปรับให้เป็นการแยกกักที่บ้านรับเครื่องตรวจวัดออกซิเจน ยาฟาวิพิราเวียร์ตามเกณฑ์ ผู้ประสานโทรติดตามอาการป่วย

10. หากผลตรวจ ATK เป็นบวกกรณีมีอาการป่วย เช่น ไอ หอบเหนื่อย หายใจไม่ออก แน่นหน้าอกมาก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้โทรประสานผู้ติดตามอาการ หรือประสานพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo