COVID-19

‘หมอธีระ’ เผยล่าสุดโควิดทั่วโลกทะลุ 300 ล้านแล้ว! ลั่นไม่ติดเชื้อย่อมจะดีที่สุด

“หมอธีระ” เผยล่าสุดโควิดทั่วโลกทะลุ 300 ล้านราย “โอไมครอน” ระบาดแล้ว 143 ประเทศ เตือนคนไทยอย่าประมาท ลั่นไม่ติดเชื้อย่อมจะดีที่สุด

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า 7 มกราคม 2565… “300 ล้าน”

หมอธีระ

ทะลุ 300 ล้านไปแล้ว

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 2,145,385 คน ตายเพิ่ม 5,914 คน รวมแล้วติดไปรวม 300,324,967 คน เสียชีวิตรวม 5,488,485 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา ฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร และอินเดีย

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 86.28 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 92.69%

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็น 47.72% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 52.13%

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 10 ใน 20 อันดับแรกของโลก

…อัพเดต Omicron

Omicron แพร่ระบาดไปแล้ว 143 ประเทศ (Source: Newsnodes)

หมอธีระ

หากดูประเทศต่าง ๆ ที่มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับไทย (69.8 ล้านคน) เช่น สหราชอาณาจักร (67.8 ล้านคน) ฝรั่งเศส (65.2 ล้านคน) และอิตาลี (60.4 ล้านคน) ขณะนี้เค้ากำลังเผชิญการระบาดของ Omicron อย่างหนัก ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันสูงถึง 179,756 261,481 และ 219,441 คนตามลำดับ โดยทั้ง 3 ประเทศดังกล่าวมีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสสูงกว่าประเทศไทย
ดังนั้นจึงต้องย้ำเตือนให้ไทยเราอย่าประมาท การคาดประมาณจากแหล่งต่าง ๆ ว่าจะมีจำนวนการติดเชื้อสูงสุดหลักหมื่นต่อวันนั้นอาจต่ำกว่าที่จะเกิดขึ้นจริง หากไม่สามารถควบคุมการระบาดได้

จำนวนการติดเชื้อมหาศาลที่อาจเกิดขึ้นนั้น ต่อให้ Omicron จะมีโอกาสเกิดป่วยรุนแรงน้อยกว่าเดลต้า แต่จำนวนการป่วยรุนแรงที่เกิดขึ้นจริงจากการติดเชื้อมหาศาล ย่อมเป็นจำนวนตัวเลขที่มาก นอกจากนี้แม้คนป่วยไม่รุนแรงเป็นส่วนใหญ่ แต่ส่วนใหญ่นั้น ถ้าเกิดขึ้นพร้อมกันหรือในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งประเทศ จะเกิดอะไรขึ้น?

ภาพที่เห็นจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่โดนบอมบาร์ดด้วย Omicron อย่างหนัก โรงพยาบาลก็เต็ม บุคลากรมากมายติดเชื้อจนเกิดปัญหาขาดแคลน นอกจากนี้การระบาดหนักก็ย่อมกระทบต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ณ จุดนี้ ที่กำลังสบตากับ Omicron เราไม่สามารถอยู่ร่วมกับมันแบบปกติได้ ตราบใดที่ประชากรในสังคมจำนวนมากยังเสี่ยงสูง ได้แก่ เด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้ในสัดส่วนที่น้อย ตลอดจนผู้สูงอายุและคนที่มีโรคประจำตัวยังไม่ได้วัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างทั่วถึงเพียงพอ รวมถึงยังมีกลุ่มคนที่ยังไม่ได้วัคซีนอีกจำนวนมาก

บทเรียนที่ผ่านมาชี้ให้เราเห็นว่า กิจกรรมเสี่ยงกิจการเสี่ยงต่างๆ ส่งผลให้เกิดการระบาดกันทั่วประเทศหลังจากเทศกาล เพราะดำเนินการหรือประกอบกิจการตามวิถีอดีตที่คุ้นชิน และผู้ไปใช้บริการไม่ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดเพียงพอ ในขณะที่กฎระเบียบเขียนไว้ประดับ แต่บังคับใช้ไม่ได้จริง

หมอธีระ

…Long COVID ปัญหาระยะยาวหากคุมการระบาดไม่ได้

ข้อมูลจากสหราชอาณาจักรชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เด็กและเยาวชนอายุ 2-16 ปีที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 แม้รักษาหายแล้วก็มีอาการคงค้างอยู่จำนวนมาก และมีกว่า 20,000 คนที่อาการยืดเยื้อนานกว่าหนึ่งปี ส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รวมถึงการเรียนและพฤติกรรมต่าง ๆ

ในขณะที่ The Economist (8 Jan 2022) ก็มีการนำเสนอข้อมูลสำรวจนักฟุตบอล พบว่ามีอัตราการติดเชื้อโรคโควิด-19 สูงขึ้นอย่างชัดเจน และที่น่าสนใจคือ แม้รักษาหายแล้ว แต่อาการคงค้างยังอยู่ ทำให้สมรรถนะในการเล่นฟุตบอลลดลง

เหล่านี้เป็นตัวอย่างจากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ และเป็นบทเรียนให้เราได้รับรู้ วางแผน และเลือกทางเดินชีวิตสำหรับตัวเราเองและสมาชิกในครอบครัว

หมอธีระ

ยังยืนยันว่าไม่ติดเชื้อย่อมจะดีที่สุด

ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า

อยู่ห่างจากคนอื่น พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัด

และควรไปฉีดวัคซีนประสิทธิภาพสูงเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันจะได้ลดโอกาสป่วยรุนแรงและลดโอกาสเสียชีวิต

หากมีอาการผิดปกติ ไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม ขอให้สงสัยโควิดไว้เสมอ และหาทางไปตรวจรักษา

Strong guarding, Early detection, Early isolation, และ Early treatment

ช่วยกันประคับประคองตัวให้ผ่านครึ่งปีนี้ไปให้ได้ คาดว่าจะหายใจหายคอได้ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง

ด้วยรักและห่วงใย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK