“หมอธีระ” เตือนจุดพีค “โอไมครอน” ไทยอาจติดเชื้อพุ่งวันละ 19,715-39,429 คน หรือสัปดาห์ละ 138,000-276,000 คนในช่วงระบาดหนัก ย้ำ!! อัตตา หิ อัตตโน นาโถ
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า หากดูธรรมชาติของ Omicron ในต่างประเทศ ทั้งอเมริกาและยุโรป ถ้าไทยโดน Omicron ในอัตราเดียวกับเค้าขณะนี้
ยอดติดเชื้อต่อวันในช่วงพีคอาจอยู่ราว 19,715-39,429 คนต่อวัน หรือราวสัปดาห์ละ 138,000-276,000 คนในช่วงระบาดหนัก
ประเด็นที่ต้องขบคิดล่วงหน้า คือ การกระจายของเคสจะไม่ได้เท่ากันทุกจังหวัดทุกพื้นที่ ที่จะเยอะจะเป็นที่ท่องเที่ยวแออัด และเขตเมืองของแต่ละจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่น
ดังนั้น caseload ที่จะเกิดขึ้น และระบบการดูแลจัดการตนเอง ครอบครัว และในชุมชน น่าจะต้องวางแผนโดยปรับเปลี่ยนจากระบบเดิม เน้นปริมาณสถานที่สำหรับพำนักระยะสั้น เรื่องเตียงป่วยหนักหรือไอซียูอาจเตรียมไว้บ้าง เน้นเตียงหรือสถานที่สำหรับแยกกักตัว สังเกตอาการคนอาการไม่รุนแรง
แต่ที่ต้องเตรียมมากขึ้นคือ สำหรับเด็กและเยาวชนครับ
ในแง่การควบคุมป้องกันระดับสังคม ทุกภาคส่วนคงต้องก้าวเข้ามาดูแลกันเองให้ดี โดยเฉพาะสถานที่ทำงานทุกประเภท
ได้เวลา activate ระบบงานทางไกล ลดจำนวนคนในสถานที่ทำงานให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เข้มงวดเรื่องการกำกับกำชับห้ามมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อติดเชื้อ ตรวจคัดกรองโรคถี่ขึ้นและทำอย่างสม่ำเสมอ
สถานศึกษา…เทอมสองยังไม่ควรมองเรื่อง onsite ครับ บอกไปให้ชัดเจนเลย คนจะได้วางแผนชีวิตได้ดี ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง
“หมอธีระ” ระบุอีกว่า สำหรับสถานการณ์ไทย จำนวนเคส Omicron สะสม 2,338 คน เป็นอันดับ 12 ของโลก
…สำหรับประชาชนไทย
หากดูจากธรรมชาติการระบาดของ Omicron ของต่างประเทศ คาดว่าถัดจากกลางเดือนมกราคม การระบาดระลอกที่ 4 จาก Omicron ของไทยเราจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ปัญหาที่เห็นชัดเจนคือ การเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองโรค ไม่ว่าจะ RT-PCR หรือ ATK ก็ตาม
การมี ATK เก็บไว้ที่บ้านบ้าง ก็จะเป็นประโยชน์ เวลาที่สมาชิกในบ้านมีอาการไม่สบายหรือสัมผัสความเสี่ยงมา หากตรวจได้ผลบวก โอกาสติดสูง หากตรวจได้ผลลบ อย่าวางใจ มีโอกาสเกิดผลลบปลอมได้ ขอให้ตรวจซ้ำในวันถัดๆ ไป
เหนืออื่นใด โอกาสที่ระบบตรวจคัดกรองโรคของประเทศเราจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับความต้องการตรวจจริงตอนที่ระบาดหนักน่าจะเป็นไปได้ยาก
ดังนั้นทางที่ควรปฏิบัติคือ ยามใดที่มีอาการไม่สบาย ไข้ ปวดหัว ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม ปวดเมื่อยตามตัว ครั่นเนื้อครั่นตัว ขอให้สงสัยโควิด-19 ด้วยเสมอ ใส่หน้ากาก อยู่ห่างๆ คนอื่นในบ้าน ไม่แชร์ของกินของใช้ และหาทางไปตรวจรักษาตามช่องทางที่มี
home isolation หรือกักตัวที่บ้านนั้น ในต่างประเทศทำได้ แต่ในประเทศไทย หลายพื้นที่อาจต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเขตเมืองที่อยู่กันอย่างหนาแน่นแออัด บ้านที่รวยมีที่ทางคงไม่มีปัญหา แต่หากเป็นบ้านที่คับแคบ รวมถึงหอพัก คอนโด แฟลต ชุมชนแออัด คงต้องระวังการแพร่ระบาดในพื้นที่ด้วย เพราะ Omicron มีอัตราการแพร่เชื้อติดเชื้อในครัวเรือนได้สูงกว่าเดลต้า (31% vs 21%) ดังนั้นหากผู้ติดเชื้อหรือครอบครัวประเมินแล้วเสี่ยงมาก ควรไปที่ community isolation
ใส่หน้ากาก อยู่ห่างคนอื่นเกินหนึ่งเมตร เลี่ยงที่แออัดหรือระบายอากาศไม่ดี
อัตตา หิ อัตตโน นาโถ…
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อย่าประมาทโอไมครอน! ‘หมอจุฬา’ เตือนระวังยอดติดเชื้อช่วงหลังกลางเดือนนี้พุ่ง
- ‘หมอจุฬา’ มองสถานการณ์โควิดในไทย เหมือนฉายหนังม้วนเก่าแต่แนวโน้มหนักกว่าเดิม!
- ‘หมอจุฬา’ แนะใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ป้องกันโอไมครอน!