COVID-19

เปิดผลทดลอง ‘โอไมครอน’ ในหนูแฮมสเตอร์ ปอดติดเชื้อน้อยกว่า เดลตา-อู่ฮั่น

“ดร.อนันต์” เผยผลทดลองทีมวิจัยญี่ปุ่น โอไมครอนในหนูแฮมสเตอร์ พบอาการป่วยติดเชื้อน้อยกว่าสายพันธุ์เดิม และ เดลตา ตั้งคำถาม เข้าสู่เซลล์ยากกว่า ทำไมแพร่ระบาดเร็วกว่า

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักไวรัสวิทยา โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana เผยผลทดสอบของโอไมครอนในหนูแฮมสเตอร์ พบติดเชื้อในปอดน้อยกว่าสายพันธุ์เดิม และ เดลตา โดยระบุว่า

หนู

ทีมวิจัยของญี่ปุ่นนำไวรัสโอไมครอนไปทดสอบความรุนแรงในหนูแฮมสเตอร์ โดยเปรียบเทียบกับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม และ เดลตา พบว่า หนูแฮมสเตอร์ติดโควิดจากสายพันธุ์เดิม และ เดลตาได้ดี มีอาการเห็นชัดมากจ ากน้ำหนักตัวที่ลดลงหลังติดเชื้อ

ส่วนหนูที่ติดโอไมครอน น้ำหนักแทบไม่ลดลงเลย เมื่อเทียบกับหนูที่ไม่ได้รับเชื้อ อาการป่วยปอดติดเชื้อดูจากระดับออกซิเจนก็ไปในแนวเดียวกัน

อนันต์

เมื่อนำปอดของแฮมสเตอร์ในแต่ละกลุ่ม มาตรวจสอบก็เห็นชัดว่า โอไมครอนติดปอดหนูเหล่านี้ ไม่ดีเท่าไวรัสอีกสองชนิด

 

ทีมวิจัยเชื่อว่า โอไมครอนเป็นไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตรงตำแหน่งของโปรตีนหนามสไปค์ ที่ทำให้ถูกตัดโดยเอนไซม์ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเข้าสู่เซลล์ได้น้อยลง เมื่อสไปค์เปลี่ยนยาก ก็เข้าสู่เซลล์ได้ยาก ทำให้ความรุนแรงในสัตว์ทดลองน้อยลง

อนันต์2

คำอธิบายดังกล่าว ยังใช้อธิบายไม่ได้ว่า ถ้าเข้าสู่เซลล์ได้ยาก เหตุใดไวรัสโอไมครอนถึงเพิ่มจำนวนได้ไวกว่าในเซลล์หลอดลมมนุษย์ถึง 70 เท่า และ แพร่กระจายได้ไวมาก

หรือ อาจเป็นไปได้ว่าหนูแฮมสเตอร์อาจจะไม่ใช่ model ที่เหมาะสมในการศึกษาความรุนแรงของโอไมครอนเหมือนสายพันธุ์อื่นแล้ว เพราะโอมิครอนจับกับโปรตีน ACE2 ของแฮมสเตอร์ไม่ดีเหมือนสายพันธุ์อื่น???

ไม่แน่ใจว่าความสามารถในการแพร่กระจายจากแฮมสเตอร์ติดเชื้อไปหาแฮมสเตอร์ จะเหมือนที่พบได้ในมนุษย์ตอนนี้หรือไม่นะครับ

อนันต์1

ถ้าไม่เหมือนคาดว่า คำถามจะกลับมาที่ทีมวิจัยว่า ตกลงโอไมครอนรุนแรงน้อยกว่าขนาดนั้นจริง ๆ หรือ

แน่นอนครับ ทุกคนอยากให้โอมิครอนเป็นแบบที่พบในแฮมสเตอร์ครับ แต่ตอนนี้ผลการทดลองยังมีอีกหลายคำถามที่ต้องตอบให้ชัดเจน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo