COVID-19

เช็คความพร้อม ระบบสุขภาพไทย รับมือโอไมครอนได้อีก 3 เท่าตัว คาด 1-3 เดือน ระบาดทุกประเทศ

“หมอเฉลิมชัย” สำรวจระบบสุขภาพไทย ยังสามารถรับมือโอไมครอนได้อีก 3 เท่าตัว หรืออีก 1.85 แสนรายพร้อมกัน คาดอีก 1-3 เดือน ระบาดครบทุกประเทศ

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun ถึงระบบสุขภาพไทย สามารถรับมือโอไมครอนได้ 1.85 แสนรายพร้อมกัน โดยที่ปัจจุบันรับอยู่ 0.47 แสนราย โดยระบุว่า

รับมือโอไมครอน

จากสถานการณ์ความคืบหน้าการระบาดของไวรัสโอไมครอน ที่ได้ระบาดไปทั่วโลกประมาณ 80 ประเทศ จาก 220 ประเทศหรือเกือบครึ่งโลกแล้ว ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน

ซึ่งนับเป็นการระบาดที่รวดเร็วมากที่สุด นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสทุกสายพันธุ์มา

ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อู่ฮั่น สายพันธุ์อัลฟา และแม้กระทั่งสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดจนเป็นสายพันธุ์หลักของโลกอยู่ในปัจจุบัน

ไวรัสโอไมครอนระบาดเร็วกว่าไวรัสเดลตาอยู่ 2-5 เท่า ทำให้เชื่อได้ว่า ในระยะเวลาอีกเพียง 1-3 เดือน โอไมครอนก็คงจะระบาดไปครบทุกประเทศ และกลายเป็นสายพันธุ์หลักในแต่ละประเทศต่อไป

จึงเป็นความจำเป็น ที่จะต้องยอมรับกันว่า ในที่สุดทุกประเทศก็จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนเป็นสายพันธุ์หลัก
ซึ่งจะประกอบไปด้วยผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย ปานกลาง และอาการมาก

ระบบสุขภาพที่ไทยเตรียมไว้รองรับคือ ในกรณีอาการน้อยจะใช้การแยกกักตัวที่บ้าน ( HI : Home Isolation และ CI : Community Isolation)

ดร.เฉลิมชัย1 1

อาการปานกลาง จะดูแลรักษาที่โรงพยาบาลสนาม และอาการมาก จะรักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก

การสำรวจศักยภาพหรือความพร้อมของระบบสุขภาพ ในการรองรับผู้ติดเชื้ออาการระดับต่าง ๆ จึงเป็นความจำเป็นที่สำคัญมาก

ลองมาสำรวจดูศักยภาพความสามารถของระบบสุขภาพไทยกันดู

1. ศักยภาพที่จะรองรับผู้ติดเชื้อโควิดทั้งระบบ ที่เคยทำได้ในอดีตคือรองรับ 185,009 ราย โดยที่ปัจจุบัน ทั้งระบบดูแลผู้ติดเชื้ออยู่ 47,731 ราย คิดเป็น 25.80%

2. ระบบสุขภาพจึงสามารถรองรับเพิ่มได้อีก 137,278 ราย คิดเป็น 74.20% หรือรับเพิ่มได้จากปัจจุบันอีกสามเท่าตัว

3. ถ้าลงไปดูในรายละเอียดของระบบสุขภาพ ที่จะรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการแตกต่างกัน

โดยเปรียบเทียบจากที่เคยรับได้สูงสุด ที่รองรับอยู่ปัจจุบัน และทำให้จำนวนเตียงเหลือที่จะรองรับได้ในอนาคต จะพบว่า

  • โรงพยาบาลหลัก เคยรับได้ 45,271 ราย ปัจจุบันรับอยู่ 21,000 ราย สามารถรับเพิ่มได้อีก 23,518 ราย
  • โรงพยาบาลสนาม เคยรับได้ถึง 75,659 ราย ปัจจุบันรับอยู่ 19,875 ราย สามารถรับเพิ่มได้อีก 55,784 ราย
  • แยกกักที่บ้าน (CI/HI) เคยรับได้ถึง 64,079 ราย ขณะนี้รับอยู่ 6,103 ราย สามารถรับเพิ่มได้อีก 57,976 ราย
  • ผู้ป่วยอาการหนัก เคยรับได้ 4,917 เตียง ขณะนี้รับอยู่ 1,000 เตียง สามารถรับเพิ่มได้ 3,917 เตียง
  • ผู้ใช้เครื่องช่วยหายใจ เคยรับได้ 1,040 เตียง ขณะนี้รับอยู่ 272 เตียง สามารถรับเพิ่มได้ 768 เตียง

จากการดูสถิติดังกล่าวข้างต้น ทำให้เห็นว่าระบบสุขภาพของไทยในขณะนี้ อยู่ในระดับที่ใช้ไปหนึ่งในสี่ หรือ 25% ของอัตราสูงสุด ( แต่ในระดับอัตราสูงสุดนั้น สร้างความยากลำบากให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก )

กำลังสำรองที่จะรองรับได้คือ รับเพิ่มได้อีกสามเท่าตัว ซึ่งพอที่จะรับมือไวรัสโอมมิครอนที่จะระบาดเข้ามาในช่วงแรกได้

แต่ถ้าการระบาดกว้างขวางมากกว่าที่เดลต้าเคยระบาดในช่วงพีคสูงสุดที่ผ่านมา ก็จะประสบปัญหาได้เช่นกัน

การเร่งฉีดวัคซีนให้ครบเข็มที่ 2 และระดมฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 โดยเร็วตลอดจนการรณรงค์ให้ทุกคนมีวินัย
จะทำให้ระบบสุขภาพของเราสามารถรองรับไวรัสโอมมิครอนในจำนวนที่เหมาะสมได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo