COVID-19

‘หมอเฉลิมชัย’ สรุปชัด ๆ 4 ประเด็น วัคซีนไฟเซอร์ ต่อกรโอไมครอน เร่งไทยฉีดวัคซีนเข็ม 3 ด่วน!!

“หมอเฉลิมชัย” รวม 4 ประเด็นผลการศึกษาวัคซีนไฟเซอร์ ในการรับมือโอไมครอน พบต้องฉีดเข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังประสิทธิภาพหลังฉีด 2 เข็ม ลดเร็ว แนะไทยเร่งฉีดเข็ม 1 เข็ม 3 ด่วน

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun ถึงการประกาศผลศึกษา วัคซีนไฟเซอร์ กับการรับมือไวรัสกลายพันธุ์ โอไมครอน โดยสรุปเป็น 4 ประเด็นหลัก ดังนี้

วัคซีนไฟเซอร์

Pfizer ประกาศการศึกษาเบื้องต้นว่า ต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 จึงจะรับมือไวรัสโอไมครอนได้ดี เพราะฉีด 2 เข็มประสิทธิผลลดลงมาก

หลังจากที่องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศให้ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน (Omicron) อยู่ในกลุ่มไวรัสหน้าเป็นห่วงกังวล (VOC) เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2564

และมีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตวัคซีนได้ออกมาแถลงว่า จะเร่งทำการศึกษาในห้องปฏิบัติการ เพื่อประเมินประสิทธิผลของวัคซีนในการรับมือกับไวรัสโอไมครอน เพื่อที่จะแจ้งข้อมูลเบื้องต้นได้ว่า วัคซีนมีประสิทธิผลกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่มากน้อยอย่างไร

ขณะนี้ (8 ธันวาคม 2564) ทางผู้บริหารบริษัท Pfizer ได้ออกมาแถลงข้อมูลการศึกษาเบื้องต้น สามารถสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1. การศึกษาในห้องปฏิบัติการเบื้องต้นพบว่า

1.1 วัคซีนของ Pfizer 3 เข็ม รับมือกับไวรัสโอไมครอนได้ดี โดยวัดที่ 1 เดือนหลังฉีดเข็ม 3

1.2 วัคซีน Pfizer 2 เข็ม มีความสามารถในการรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ไฟเซอร์

2. วัคซีน 3 เข็ม เพิ่มระดับภูมิคุ้มกันในการรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ได้สูงถึง 25 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับกรณีวัคซีน 2 เข็มในการรับมือกับไวรัสสายพันธุ์เดิม

3. วัคซีน 2 เข็ม ยังสามารถรับมือผู้ติดเชื้อที่จะมีอาการป่วยรุนแรงได้ดี เนื่องจากพบว่าในส่วนหนามประมาณ 80% ซึ่งจะถูกจดจำด้วยระบบภูมิคุ้มกันทีเซลล์ (CD8+T-cell) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการกลายพันธุ์ครั้งนี้ จึงทำให้วัคซีนเพียง 2 เข็มลดอาการป่วยรุนแรงได้ดี แต่จะมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อได้ลดลง

4. วัคซีนรุ่นใหม่ (New Generation) ที่จะรองรับไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน จะใช้เวลาพัฒนาประมาณ 4 เดือน คาดว่าจะสามารถใช้ได้ในเดือนมีนาคม 2565 และจะไม่รบกวนแผนของบริษัทซึ่งจะผลิตวัคซีนรุ่นเดิม 4,000 ล้านโดสในปี 2565

การศึกษาดังกล่าว สอดคล้องกับการศึกษาเบื้องต้นของ AHRI : Africa Health Research Institute ซึ่งสรุปว่า
ระดับภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดวัคซีนสองเข็ม ในการรับมือไวรัสโอไมครอนลดลงมาก และจำเป็นต้องฉีดเข็มสามเข็มกระตุ้น

และการศึกษาในเยอรมันพบว่า ระดับภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ลดลง 37 เท่า

ผู้บริหารของบริษัท BioNTech ซึ่งร่วมกับบริษัท Pfizer ในการพัฒนาวัคซีน ได้ให้คำแนะนำว่า

LINE ALBUM covid Omicron ๒๑๑๒๐๙ 1

ควรจะลดระยะเวลาระหว่างการฉีดเข็ม 2 กับเข็ม 3 ที่เคยแนะนำให้ห่างกัน 6 เดือน เป็นห่างกัน 3 เดือน เพื่อทำให้สามารถที่จะรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ต่อไปได้

ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนสองเข็มใกล้จะครบ 50 ล้านคน หรือ 100 ล้านโดสแล้ว และมีวัคซีนที่อยู่ในมือ และที่ได้จัดหาไว้เป็นการล่วงหน้า รวมแล้วกว่า 65 ล้านโดส ก็จะสามารถนำมาฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ซึ่งจะสามารถรองรับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นได้

และควรเร่งฉีดวัคซีนผู้ที่ยังไม่ได้วัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว ให้เข้ามารับวัคซีนโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่มีความพร้อม ที่จะรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่มีโอกาสจะแพร่ระบาดทั่วโลกในเวลาอีกไม่นานนักได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo