“โฆษกรัฐบาล” เปิดแผนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 สำหรับประชาชน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์-โมเดอร์นา” เป็นเข็มกระตุ้น
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 วานนี้ (13 ธ.ค.) ที่ประชุมเห็นชอบแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ภายในเดือนธันวาคม 2564 โดยจะให้มีบริการฉีดวัคซีนอย่างน้อยจำนวน 6.6 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 3.1 ล้านโดส เข็มที่ 2 จำนวน 2.3 ล้านโดส และเข็มที่ 3 จำนวน 1.2 ล้านโดส และจะดำเนินการแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางใหม่ตามคำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ดังนี้
- ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนธันวาคม 2564
- ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนมกราคม 2565
- ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
- ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนมีนาคม 2565
รับวัคซีนเข็มกระตุ้น
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา โดยเว้นระยะห่างตั้งแต่ 3-6 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2 สำหรับประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา โดยเว้นระยะห่างตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
แผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3
รวมถึงประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เข็มที่ 1 ซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม เข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็น แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา โดย ศบค. มีแผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพิ่มอย่างน้อย 23 ล้านโดส ภายในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ยังเห็นชอบแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ในปี 2565 โดยรัฐบาลตั้งเป้าจะจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดส จากบริษัทผู้ผลิตหลายบริษัทด้วยกัน อาทิ แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ และวัคซีนชนิด Protein Subunit เพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเพียงพอและครอบคลุมอย่างน้อย 80% ของประชากรทุกคนในประเทศไทย สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุต่ำกว่า 12 ปี สามารถได้รับการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง
ไม่เคยรับวัคซีน walk-in ได้เลย
ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยรับการฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนแบบ walk-in ได้ตามสถานพยาบาลหรือศูนย์บริการฉีดวัคซีนอีกด้วย อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการป้องกันโควิด-19อย่างดีทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ระวัง!! วิจัยพบ โควิด-19 ‘โอไมครอน’ หลบภูมิคุ้มกันวัคซีนไฟเซอร์ได้บางส่วน
- ‘หมอยง’ เตือน!! วัคซีนเข็ม 4 ใช้เมื่อจำเป็นและถึงเวลา ชี้ให้มากครั้งมีความเสี่ยง
- ‘หมออุดม’ แจงยอดฉีดวัคซีนพลาดเป้าเพราะคนลังเล รับหวั่นลูกผสมเดลตา-โอไมครอน!!