“หมอยง” เผยวิวัฒนาการโลกสู้ไวรัสโควิด-19 ล่าสุดฝรั่งเศส สร้างความหวังใหม่ พัฒนาวัคซีนใส่สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แก้ปัญหาภูมิคุ้มกันตกเร็ว ขณะที่ไทยรอสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้ ต้องฉีดวัคซีนทุกคน
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ถึงการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่การพยายามกวาดล้าง แต่ไม่สำเร็จ การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และการพัฒนาวัคซีน โดยระบุว่า
เดิมเมื่อมีการระบาดใหม่ ๆ เรามีความพยายามที่จะกวาดล้าง ให้ได้เหมือนกับโรค SARS ที่ระบาดในปี 2003 แต่แล้วก็ไม่สามารถที่จะกำจัดได้ โรคได้ระบาดไปทั่วโลก pandemic
ต่อมาได้มีการคิดถึงภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อจะยุติการระบาดของโรค แนวคิดการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนจึงเป็นทางออก ให้ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทาน เพื่อปกป้องประชากรส่วนน้อยที่ไม่มีภูมิต้านทาน โดยคาดการณ์ตามอํานาจการกระจายโรค อยู่ที่ 2-3 ก็จะใช้ภูมิต้านทานหมู่ประมาณ 60-70% ก็น่าจะยุติบรรเทาลงได้
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเป็นสายพันธุ์เดลตา การแพร่กระจายของโรคใด้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้น
ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า วัคซีนป้องกันความรุนแรงของโรค ลดการป่วยตาย ลดการนอนโรงพยาบาล ให้ระบบสาธารณสุขคงอยู่ได้ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาได้
ความหวังภูมิคุ้มกันหมู่ จึงไม่สามารถที่จะให้โรคสงบลงได้
จากบทเรียนของไข้หวัดใหญ่ วัคซีนก็ไม่สามารถที่จะป้องกันการติดเชื้อได้ สามารถป้องกันกลุ่มเสี่ยงลดการป่วยตาย และการระบาดเป็นฤดูกาล
สายพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องมีการเฝ้าระวังสายพันธุ์ คัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม นำมาพัฒนาวัคซีนประจำปี ไม่ว่าจะเป็น ซีกโลกเหนือ หรือซีกโลกใต้ องค์การอนามัยโลกจะเป็นคนกำหนด
Covid-19 vaccine เมื่อเริ่มต้นพัฒนา เห็นหนทางสดใสมาก เพราะ มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการลดการป่วยแบบมีอาการ ซึ่งสูงกว่าไข้หวัดใหญ่มาก ไข้หวัดใหญ่มีประสิทธิภาพเพียง 50% และบางปีอาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ
แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ประสิทธิภาพในการป้องกันดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนแรกเท่านั้น เมื่อนานขึ้นภูมิต้านทานลดลง ไวรัสเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ ทำให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก
เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ก็เห็นได้ชัดว่าการป้องกันโรคลดลง จึงมีความพยายามที่จะให้มีการกระตุ้น ให้ภูมิต้านทานขึ้นสูงและอยู่นาน
ในปัจจุบันทราบแล้วว่า ภูมิต้านทานที่สร้างขึ้นจากวัคซีนส่วนใหญ่ จะเป็นเพียงส่วน ต่อหนามแหลม ของตัวไวรัส และภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีน สู้ภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อไม่ได้ ถ้ามีการติดเชื้อ แล้วกระตุ้นด้วยวัคซีน ประสิทธิภาพในการป้องกัน จะสูงกว่าภูมิต้านทานจากวัคซีนอย่างเดียว
ตรรกะนี้น่าสนใจ ถ้าจำลองให้เกิดการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ หรือการใช้วัคซีนให้คล้ายกับการติดเชื้อมากที่สุด แล้วกระตุ้นด้วยวัคซีนที่มีอยู่ ก็จะได้ประโยชน์สูงสุด
จับตาฝรั่งเศส พัฒนาวัคซีนใส่สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ฝรั่งเศสเอง (Valneva) กำลังพัฒนาวัคซีนเชื้อตาย ที่ให้มีประสิทธิภาพสูง โดยการใส่สารช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ถึง 2 ชนิด คือ Alum เช่นเดียวกับวัคซีนของจีน และเพิ่ม CpG เข้าไปอีก 1 ตัว เพื่อจะจำลองให้คล้ายกับการติดเชื้อมากที่สุด
ผลการศึกษา ทำให้หลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรป ตั้งความหวังไว้มาก มีการจองวัคซีนของฝรั่งเศสไว้เป็นจำนวนมาก
จากข้อมูลทั้งหมดแต่เห็นว่า ถ้าต้องการลดการป่วยตายทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง จะต้องได้รับวัคซีนทั้งหมด จะหวังรอภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้
ประเทศไทยจะต้องฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เป้าหมายกระทรวงสาธารณสุข ภายในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ จะต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอยง’ ย้ำ! จำเป็นต้องกระตุ้นเข็ม 3 เพิ่มภูมิ-ลดความรุนแรงระยะยาว
- ‘หมอยง’ เปิดจุดอ่อนวัคซีนพ่นจมูกของไข้หวัดใหญ่ บทเรียนสู่โควิด!!
- ฉีดซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ‘หมอยง’ ชวนร่วมวิจัยกระตุ้นเข็ม 3 เช็คเงื่อนไขที่นี่