COVID-19

วัคซีนใบยา เตรียมปรับสูตรรุ่น 2 กระตุ้นภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น

วัคซีนใบยา ชนิดโปรตีนซับยูนิต ปรับสูตรรองรับวัคซีนเจเนอเรชัน 2 ตั้งเป้าไตรมาส 3 ปีหน้า พร้อมใช้จริง ส่วนสูตรแรกเตรียมทดลองในคน ระยะที่ 1 สิ้นเดือนกันยายนนี้

รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญ Co-founder และ Chief Technology Officer (CTO) บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด กล่าวในงานสนทนา Future Talk by NXPO เรื่อง ความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทยด้วยกลไกการบ่มเพาะจากสถาบันอุดมศึกษา จัดโดย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ถึงการวิจัยและพัฒนา วัคซีนใบยา โดยระบุว่า

วัคซีนใบยา

วัคซีนป้องกันโควิดมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชนิดเชื้อตาย อย่างซิโนแวค ซิโนฟาร์ม หรือโปรตีนซับยูนิต ซึ่งทางใบยา ได้พัฒนาวัคซีนที่ใช้พืชเป็นแหล่งผลิต จากต้นต้นยาสูบ ที่เป็นคนละพันธุ์กับของไทย โดยเป็นยาสูบที่มีปริมาณนิโคตินต่ำ โดยได้ปลูกขึ้นมาและส่งถ่ายยีนเฉพาะชิ้นส่วนที่สามารถโค้ดเป็นโปรตีนของไวรัส ให้พืชผลิตขึ้นมาได้

นอกจากนี้ ยังมองถึงการสร้างความมั่นคงในการผลิตระดับต้นน้ำ ของยาอื่น ๆ เพราะหากเกิดการระบาดของโรคอื่นๆ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของไวรัส เราต้องพร้อมในการผลิตยา หรือวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้ เราต้องนำเข้าได้ด้วย และผลิตเองได้ด้วย เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงยาและวัคซีนได้

ด้าน ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ Co-founder และ CEO บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดของทางใบยานั้น ได้มีการทดสอบทั้งระดับห้องปฏิบัติการ ทั้งสัตว์ทดลอง ซึ่งผลค่อนข้างดี และกำลังจะก้าวเข้าสู่การทดสอบในมนุษย์ภายในสิ้นเดือน กันยายนนี้

ใบยา

จากการพัฒนาวัคซีนมา 18 -20 เดือน ทำให้เห็นว่า ไทยมีศักยภาพ ประกอบกับเรามีโครงสร้างที่เรียกว่า ศูนย์วิจัยไพรเมท โดยเฉพาะการทดลองในลิง ซึ่งเป็นคีย์สำคัญของการทำวัคซีน อย่างไรก็ตาม สำหรับการทำสตาร์ทอัพของทางใบยา ใช้โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้มาทำงาน และพร้อมจะรับกับโรคระบาดในครั้งถัด ๆ ไป ซึ่งส่วนตนมองว่า นักวิจัยไทยมีศักยภาพ

ขณะเดียวกัน ใบยามีการปรับสูตรวัคซีนเจเนเรชัน 2 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น แต่ต้องขอดูผลการศึกษาเฟส 1 ก่อนพิจารณาว่าจะมีรุ่นที่ 2 หรือไม่ เนื่องจากต้องการวัคซีนที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐาน

ทั้งนี้ ตามแผนคาดว่าไตรมาส 3 ปี 2565 น่าจะมีวัคซีนพร้อมฉีดได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลของเฟส 1 เฟส 2 และเฟส 3 ผลเป็นอย่างไรด้วย นอกจากนี้ ใบยาไม่ได้มองแค่วัคซีน แต่จะมีการวิจัยยามะเร็งด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo