COVID-19

ไปภูเก็ตต้องรู้! จังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งด่วน เข้มมาตรการเข้า-ออก พักค้างคืน

จังหวัดภูเก็ต ออกประกาศ ควบคุมการเดินทาง เข้า-ออก ทั้งทางอากาศ บก น้ำ การพักค้างคืน จาก 21 จังหวัด ต้องบันทึกรายงานการเดินทาง ฝ่าฝืนโทษคุก 1 ปี ปรับแสนบาท

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต โพสต์เฟซบุ๊ก รายงานว่า นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2186/2564 ลงวันที่ 24 เมษายน 2564 โดยแก้ไขเพิ่มเติม คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2077/2564 เรื่อง ปิดสถานที่ และกำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ 2) ดังนี้

จังหวัดภูเก็ต

เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ข้างเคียง และภายในประเทศ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรณีจึงมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เข้มงวด เพื่อป้องกัน และระงับยับยั้งการระบาดของโรค มิให้แพร่ระบาดออกไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 30/2564 เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2564จึงแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2077/2564 ลงวันที่ 20 เมษายน 2564

ข้อ 8 มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัด โดยให้ยกเลิกความในข้อ 8.1 และ 8.2 และให้ใช้ข้อความดังต่อไปนี้แทน

ภูเก็ต

8.1 ให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 17 จังหวัด และเพิ่มเติม 4 จังหวัด ได้แก่

กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง ขอนแก่น นครศรีธรรมราช นราธิวาส สุราษฎร์ธานี และผู้ที่มีภูมิลำเนา ในจังหวัดภูเก็ตที่เดินทางออกไปและเดินทางกลับเข้ามา หรือตามรายงานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ประกาศเพิ่มเติม ที่มาพำนักในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติดังนี้

(1) ผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม (กรณีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งทางท่าอากาศยาน และทางเรือ ต้องได้รับวัคซีนที่ อย. ในประเทศไทยรับรองมาแล้วไม่น้อยกว่า 14วัน) หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 โดยวิธีการ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID – 19 is not detected)

ภูเก็ต1

หากไม่มีเอกสารดังกล่าว ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ Antigen Rapid Test โดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ยกเว้นชาวต่างชาติต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง กรณีเพิ่มเติม 4 จังหวัด ให้กระทรวงสาธารณสุข หรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และหากผลการทดสอบพบเชื้อโควิด – 19 ผู้เดินทางต้องไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดทันที

(2) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต

(3) ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทาง เข้าจังหวัดภูเก็ต หรือกรณีที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ เมื่อเดินทางถึงพื้นที่ปลายทางให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ณ เทศบาล หรือ อบต. ในพื้นที่ที่พักอาศัย

(4) ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) พิจารณากำหนดมาตรการควบคุมโรคที่เหมาะสม และให้สังเกตติดตามอาการตนเอง (Self Monitoring) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค งดการอยู่ใกล้บุคคลอื่น โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร งดการไปในที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น และงดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

ภูเก็ค2

กรณี ผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต และพักในโรงแรม หรือสถานที่พักอื่นใดที่มีลักษณะ คล้ายโรงแรมที่มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และที่เพิ่มเติม 4 จังหวัด เข้ามาพักอาศัย ให้โรงแรม อพาร์ตเม้นท์ รีสอร์ท ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต้องดำเนินการ ดังนี้

1) คัดกรองอาการและวัดไข้ให้ผู้เข้าพักเมื่อแรกรับ

2) ตรวจสอบการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และการลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com ของผู้เข้าพัก เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต

3) จัดทำบันทึกการติดตามผู้เดินทางรายบุคคล COVID – 19 และการเดินทางของผู้เข้าพักตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก รวมถึงกรณีที่ออกไปท่องเที่ยว ทำกิจธุระ ทำงาน ประกอบธุรกิจ หรือทำกิจธุระอื่นใด โดยระบุ วัน เวลา สถานที่ที่จะไปปฏิบัติภารกิจ ส่งรายงานให้ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม อพาร์ตเม้นท์ รีสอร์ท

ทังนี้ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับตรวจติดตามโรคตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ชุมชนหรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก ตามแบบรายงานแนบท้ายคำสั่งนี้

กรณีพักอาศัยในบ้าน ให้เจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน เจ้าของหรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ หรือสถานที่อื่นใดที่มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) เข้ามาพักอาศัย จัดทำบันทึกการติดตาม ผู้เดินทางรายบุคคล COVID – 19 ส่งรายงานให้ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) ในพื้นที่ที่พักอาศัย ตามแบบรายงานแนบท้ายคำสั่งนี้

ผู้ประกอบการ โรงแรม อพาร์ตเม้นท์ รีสอร์ท เจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน เจ้าของหรือ ผู้ควบคุมสถานประกอบการ หรือสถานที่อื่นใด ไม่จัดส่งข้อมูลบันทึกการติดตามและการเดินทางของผู้เข้าพัก ตามแบบรายงานแนบท้ายคำสั่งนี้อาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 49 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรณี ผู้เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตชั่วคราว หรือผู้ขนส่งสินค้าที่ไม่แวะค้างคืนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ต้องมีเอกสารรับรอง หรือใบส่งของจากต้นสังกัดแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ ตามแบบหนังสือรับรองการขนส่งสินค้าแนบท้ายคำสั่งนี้ เพื่อประโยชน์ในการติดตาม เฝ้าระวัง และควบคุมโรค

8.2 ให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่นอกเหนือจาก ข้อ 8.1

หรือตามรายงานศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่ประกาศเพิ่มเติม ที่มาพำนักในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติดังนี้

  • ผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต้องเป็นผู้ที่ ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม (กรณีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งทางท่าอากาศยานและทางเรือต้องได้รับวัคซีนที่ อย. ในประเทศไทยรับรองมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑๔ วัน) หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 โดยวิธีการ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง

หากไม่มีเอกสารดังกล่าว ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ Antigen Rapid Test โดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ยกเว้นชาวต่างชาติต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และหากผลการทดสอบพบเชื้อโควิด-19 ผู้เดินทางต้องไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดทันที

1) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต

2) ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทาง เข้าจังหวัดภูเก็ต หรือกรณีที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ เมื่อเดินทางถึงพื้นที่ปลายทางให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ณ เทศบาล หรือ อบต. ในพื้นที่ที่พักอาศัย

3) ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) พิจารณากำหนดมาตรการควบคุมโรคที่เหมาะสม และให้สังเกตติดตามอาการตนเอง (Self Monitoring) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค งดการอยู่ใกล้บุคคลอื่น โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร งดการไปในที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น และงดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

จังหวัดภูเก็ต

  • ผู้ที่เดินทางเข้ามาทางด่านตรวจทางบก ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ต้องปฏิบัติ ดังนี้

1) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต

2) ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทาง เข้าจังหวัดภูเก็ต หรือกรณีที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ เมื่อเดินทางถึงพื้นที่ปลายทางให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ณ เทศบาล หรือ อบต. ในพื้นที่ที่พักอาศัย

3) ปฏิบัติตามคำแนะนำของศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล เทศบาล, อบต.) อย่างเคร่งครัด โดยเฝ้าสังเกตอาการตนเอง (Self Monitoring) หากพบความผิดปกติหรือสงสัยว่าจะเป็น ผู้ติดเชื้อ ให้พบแพทย์ ณ โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดโดยด่วน

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรง แก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความ ในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2564

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo