5 ปี คนไทยเสียชีวิตจาก “โรคฮีทสโตรก” เฉลี่ย 38 ราย/ ปี 62 สูงสุด 57 ราย อาชีพ “รับจ้าง” เสี่ยงสุดๆ แนะ 5 วิธีป้องกัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
ข้อมูลกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ตั้งแต่ 2558-2562 พบรายงานผู้เสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อนที่เรียกว่า “โรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก” (Heat Stroke) เฉลี่ยปีละ 38 ราย ในช่วงฤดูร้อนปี 2562 ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูง 40 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตถึง 57 ราย มากที่สุดในเดือนเมษายน อาชีพเสี่ยง ได้แก่
- รับจ้าง 23%
- คนเร่ร่อน 9%
- เกษตรกร 7%
ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว 39% เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การดื่มสุราประจำ 19 % ทำกิจกรรมเสี่ยงกลางแจ้ง 21%
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ ประเทศไทย มีสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิตั้งแต่ 36-41 องศาเซลเซียส ในวันนี้ (7 พ.ค. 63) บางจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิสูงถึง 42 องศาเซลเซียส
จึงขอให้ประชาชน ระวังการเจ็บป่วย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีอาการเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงอาการรุนแรง ที่อาจเสียชีวิต ได้แก่ เพลียแดด โรคฮีทสโตรก เกิดจากการทำกิจกรรม หรือทำงาน ในที่อากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน จนร่างกายไม่สามารถปรับตัว และควบคุมความร้อนในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่
1.ผู้ที่มีอาชีพทำงาน หรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น กรรมกร ก่อสร้าง เกษตรกร
2.กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
3.ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง คนอ้วน ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ และผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“ในช่วงอากาศร้อน ต้องใส่ใจดูแลทั้งตัวเอง และคนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่มีโรคประจำตัว และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง “
วิธีปฏิบัติตัว หากอากาศร้อนจัด ประกอบด้วย 5 แนวทาง
1.งดออกไปกลางแจ้ง
2.งดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแดด เป็นเวลานาน
3.ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย วันละ 8-10 แก้ว
4.สวมเสื้อผ้าระบายอากาศได้ดี
5.ไม่ควรดื่มสุรา ขณะอากาศร้อน
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบาย อาการฮีทสโตรก ว่า จะมีอาการตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก กระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
โดยรีบนำผู้ป่วยเข้าในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้ดื่มน้ำเย็น ให้นอนราบ และยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูง ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำแข็งประคบตามหน้าผาก ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ร่วมกับใช้พัดลมเป่าช่วยระบายความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย ให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด ถ้ามีอาการรุนแรง หมดสติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที หรือโทรสายด่วน 1669
- คนกรุงเตรียมพร้อม! ‘กรมอุตุ’ เตือนอากาศร้อนถึงร้อนจัด พายุฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่
- ทุกภาคร้อนจัด! อุตุฯเตือนลมแรง- พายุฝนฟ้าคะนอง
- ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด เตือน 41 จังหวัดระวังฝนถล่ม!