สธ.กำหนดแนวทางผ่อนคลายมาตรการ “คลินิกความงาม-นวดสปา-สถานบริการ” ต้องเน้นมาตรการระยะห่าง คัดกรอง สวมหน้ากาก ล้างมือ จำกัดจำนวนผู้รับบริการ พร้อมชวนประชาชนช่วยตรวจสอบผ่าน THAISTOPCOVID
“อีกไม่ถึงอาทิตย์ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะหมดอายุ ในวันที่ 30 เม.ย. แล้วจะต่ออายุหรือไม่ ?เป็นสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังเฝ้ารอ ”
แต่คนตัดสินใจที่แท้จริง ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะศูนย์บริหารสถานการณ์-โควิด 19 (ศบค.) แต่ คือ ประชาชน ทุกคนร่วมมือกันแค่ไหน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ในการจัดสถานบริการ ป้องกันการแพร่ระบาดรอบใหม่
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า หากมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มสถานการณ์โควิด-19 ในส่วนของคลินิกความงาม หากจะเปิดบริการได้กำหนดมาตรการ ประกอบด้วย ช่วงก่อนเปิดบริการ แบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรก สถานประกอบการ ต้องทำความสะอาด จัดสถานที่เว้นระยะห่าง จัดจุดพื้นที่ภายนอกหรือส่วนแยก (Isolate area) เพื่อคัดกรอง เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้เพียงพอ
ส่วนที่สอง ผู้รับบริการ ต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานพยาบาล และส่วนที่สามผู้ให้บริการ ต้องจัดทำเวชระเบียนเพื่อซักประวัติผู้รับบริการ ให้บริการแบบ 1 คน ต่อแพทย์ พยาบาล 1 คนเท่านั้น และจัดเตรียมห้องทำหัตถการแยกห้องๆละ 1 คน
ส่วนในช่วงให้บริการ เน้นการคัดกรองผู้รับบริการเป็นสำคัญ วัดอุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ล้างมือ และสวมหน้ากากตลอดเวลา ที่เข้ารับบริการ หากพบภาวะเสี่ยงต้องรายงาน และส่งต่อรักษาได้ทันที นอกจากนี้ ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หลังใช้งานและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ทำความสะอาดพื้นที่และจัดเก็บขยะทุกครั้ง
นพ.ธเรศ กล่าวว่า ในส่วนกิจการสปานวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงามและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ต้องเตรียมสถานที่และบุคลากรในแนวทางเดียวกับคลินิกความงาม ดังนี้
- คัดกรอง ซักประวัติ
- เว้นระยะห่าง
- จัดห้องนวด 1 คนต่อห้อง
- ถ้าห้องรวมจะต้องเว้น หรือมีผ้าปิดกั้น
- ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการนวดต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง
- ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลก่อน และหลังให้บริการ
- แต่งกายรัดกุม ไม่ใช้สิ่งของ เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น
- แม่บ้านทำความสะอาด ต้องจัดการขยะติดเชื้อแยกเฉพาะ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ทิชชูที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก จะต้องเก็บใส่ถุงมิดชิด
ทั้งนี้จะส่งให้แต่ละแห่งสำรวจความพร้อม ก่อนเปิดให้บริการ และจะส่งทีมเข้าตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้สร้างแพลตฟอร์ม THAISTOPCOVID (stopcovid.anamai.moph.go.th) คนไทยรวมพลังป้องกันโรค เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งร้านอาหาร โรงแรม ร้านเสริมสวย ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
ได้เข้ามาประเมินความพร้อม ก่อนเปิดให้บริการ รวมทั้งประชาชนทั่วไปสามารถ เข้าไปตรวจสอบ และช่วยรายงานข้อมูลกลับมาด้วยว่าสถานประกอบการ แต่ละแห่งปฏิบัติตามมาตรการคัดกรอง เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนามาตรฐาน รองรับสถานบริการ และประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบไปพร้อมกัน
- รอเฮ!! ‘ศบค.’ จ่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่างๆ สัปดาห์หน้า
- จับตาครม.ถกพิจารณาผ่อนคลายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
- ‘หมอ’ เตือนระวังผ่อนคลายมาตรการสู้ ‘โควิด-19’ ห่วง ‘คลื่นลูกที่ 2’ ซ้ำเติม