ศบค.ย้ำสถานการณ์ไทยดี เทียบอาเซียน ขอความร่วมมือคนไทย ตั้งการ์ดให้ครบ 12 ยก สู้โควิด-19 อีกเป็นเดือน กางตัวเลขผู้ติดเชื้อใน 4 จังหวัดภาคใตัสูง เหตุกลุ่มเดินทางกลับจากพิธีกรรมทางศาสนาอินโด-มาเลย์ ระบุกลับจากอินโดทยอยป่วย รวม 61 รายแล้ว ชูระบบ State Quarantine ของไทยช่วยสกัดระบาดในภาคใต้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 14 เมษายน ว่า วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และอาเซียนบวกสาม เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยระบุว่าหากเทียบประเทศในอาเซียน ไทยดีกว่าหลายประเทศ ปัจจุบันเรามีผู้ติดเชื้ออันดับที่ 50 ของโลก จากจำนวนผู้ป่วยสะสม จะเห็นได้ว่าไม่มีใครในกลุ่มอาเซียนที่สถานการณ์ดีแบบไทย เรามีเส้นกราฟผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ชัน มีฮ่องกงที่ใกล้เคียง ขณะที่ สิงคโปร์ กำลังไต่ขึ้นไปแซงหน้าเราไปแล้วเป็นอันดับที่ 48 เพราะภายในวันเดียว มียอดผู้ติดเชื้อ 386 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเป็น 2,918 ราย จากปัจจัยอยู่ในสถานที่แออัด ตามหอพักต่างๆ ญี่ปุ่นเอง กราฟก็กำลังเชิดขึ้นเช่นกัน จากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกล่าสุด 248 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 7,618 ราย
“การ์ดเราอย่าตก ต้องทำคะแนนไปเรื่อยๆ มวยบอกต้องมี 12 ยก เพราะเราก็บอกไม่ได้ว่า สถานการณ์จะยาวนานแค่ไหน ไม่ได้จบวันนี้หรือพรุ่งนี้แน่นอน ต้องเป็นเดือน ต้องซิลดีๆ ไม่ให้มีเชื้อโรคเข้า “
มาดูสถานการณ์ที่อินโดนิเซีย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มล่าสุด 316 ราย มียอดผู้ป่วยสะสม 4,557 ราย มีการยอมรับว่า ปิดบังตัวเลขกันเกิดขึ้น ต่อมาก็ต้องเปิดทางทุกอย่าง ให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง เพราะหลักการวิกฤติ ต้องโปร่งใส พิสูจน์ได้ และเห็นภาพความเป็นจริง ทุกคนจะได้รับทราบ ขณะที่ไทยเปิดเผยตั้งแต่ต้น ไม่มีใครคุมตัวเลข เพราะเราต้องการให้พี่น้องรับทราบ และการเปิดเผยยังลงไปในระดับจังหวัด ส่วนมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 134 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 4,817 ราย
จากสถานการณ์อินโดนิเซีย ทำให้คนไทยที่ไปร่วมพิธีกรรมทางศาสนาที่อินโดนิเซีย 70 ราย ติดโควิด-19 แล้ว 61 ราย ลองนึกภาพว่าหากไม่มี State Quarantine ที่ดี 70 รายเหล่านี้ กระจายกลับไปลงชุมชน ซึ่งมี 61 รายทยอยเป็นโควิด-19 วันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย กับพื้นที่ภาคใต้
เป็นที่มาให้เราต้องเน้นย้ำเรื่องการเดินทางกลับมาจากต่างประเทศของคนไทยต้อง State Quarantine ทั้งนี้จึงต้องขอให้ ผู้ที่เดินทางกลับจากอินโดนิเซีย ซึ่งยังไม่เป็นอะไร ขอให้แข็งแรง หากไม่สบาย ก็ต้องรีบมารักษากัน โอกาสเจ็บหนักก็จะน้อยลง โอกาสรักษาในห้องไอซียูก็ลดลง เพราะเราดูแลท่านอย่างดีใน State Quarantine ขอให้คนไทยที่จะกลับมาอีก เข้า State Quarantine โดยสมัครใจไม่ต้องวิ่งไปตามหากัน เพราะเรามีเจตนาดี อยากให้ท่านปลอดภัย และสังคมก็จะปลอดภัย
” ผู้เดินทางไปร่วมพิธีกรรมทางศาสนาทั้งที่มาเลเซีย และอินโดนิเซีย ติดโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน เรานำเสนอข้อมูลเชื่อมโยงทางการแพทย์ ไม่ได้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เราคุยแม้ประะเพณีสงกรานต์ของไทย ก็ต้องงด เพราะการสัมผัสใกล้ชิด เป็นเหตุของโรคติดต่อ เราแจกแจงเพื่อให้พี่น้องมุสลิม รับทราบว่าสุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราต้องจัดสมดุลชีวิต และร่างกาย กับพิธีกรรมอย่างไรให้เหมาะสม จะได้ไม่ติดโรค จะได้ปลอดเชื้อ เรายกตัวอย่างยะลา ซึ่งวันนี้มีผู้ติดเชื้อ 82 ราย จากการเจอกับผู้ติดเชื้อกลุ่มก้อนใหม่ ที่กลับจากอินโดนิเซีย และพิธีทางศาสนาที่บันนังสตา ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม”
ดังนั้นการจะทำให้อันดับของไทยขึ้นหรือลง เราต้องช่วยกันทั้งชุมชน ซึ่งวันนี้เราก็ได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ว่าไทยมีด้านหนึ่งที่ดีมาก คือ เรามีระบบการ ดูแลสุขภาพ ที่ถึงระดับครอบครัว โดยกลไกของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 1.4 ล้านคน ทำให้สามารถดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด นับเป็นความภาคภูมิใจของไทย แสดงถึงศักยภาพของเราในเวทีโลก ขอบคุณพี่น้องอสม.ทุกคน เมื่อวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็กล่าวขอบคุณอสม.ในที่ประชุมศบค.ด้วย
- ไทย ครองอันดับ 4 อาเซียน ยอดผู้ป่วย-ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เตรียมประสาน 10 ชาติหยุดโรค
- ‘บิ๊กตู่’ ร่วมประชุมเวทีผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษ ‘สู้โควิด’
- ‘อาเซียนบวกสาม’ พร้อมร่วมมือสู้ ‘โควิด’ ใช้กลไกที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
