ศูนย์จีโนมฯ บอกข่าวดี วัคซีน mRNA ปรับสูตรใหม่ตามสายพันธุ์ ป้องกันโควิดในเด็กเล็กได้ครอบคลุมและปลอดภัย
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เรื่อง วัคซีน mRNA ปรับสูตรใหม่ตามสายพันธุ์ ป้องกันโควิดในเด็กเล็กได้ครอบคลุมและปลอดภัย โดยระบุว่า
การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Infectious Diseases เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 เป็นการศึกษาย้อนหลังในสหรัฐ ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2565 พบว่า วัคซีนโควิด-19 ชนิดไบวาเลนท์ของ Moderna ที่ปรับให้ตรงกับสายพันธุ์โอไมครอน BA.1 ที่กำลังระบาดในขณะนั้น (ปัจจุบันวัคซีนรุ่นนี้ยุติการใช้ในสหรัฐแล้ว เพราะมีวัคซีนปรับสูตรใหม่ตามสายพันธุ์ออกมาแทน) มีความปลอดภัย และสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี
วัคซีนไบวาเลนท์ นี้มีส่วนประกอบของ mRNA ที่ถอดรหัสโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิม (Wuhan-Hu-1) และสายพันธุ์โอไมครอน BA.1 ในอัตราส่วน 1:1 ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสได้ครอบคลุมมากขึ้น
การศึกษานี้มีเด็กเข้าร่วมทั้งหมด 718 คน แบ่งเป็นสองส่วน ในส่วนแรก มีเด็ก 179 คนที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เข้ารับวัคซีนไบวาเลนท์เป็นชุดฉีดพื้นฐาน 2 เข็ม
ในส่วนที่สอง มีเด็ก 539 คนซึ่งเคยได้รับวัคซีนโมโนวาเลนท์ mRNA-1273 ของ Moderna มาแล้ว 2 เข็ม เข้ารับวัคซีนไบวาเลนท์เป็นเข็มกระตุ้น ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของวัคซีนไบวาเลนท์ในการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะต่อสายพันธุ์โอไมครอน
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนจากงานวิจัยนี้
1. วัคซีน mRNA-1273.214 มีความปลอดภัยสูงในเด็กเล็ก โดยส่วนใหญ่มีเพียงอาการไม่พึงประสงค์เล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่พบอาการรุนแรง (ระดับ 4)
2. อาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยที่สุดคืออาการเฉพาะที่ เช่น ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด และอาการทั่วไป เช่น ไข้ หงุดหงิด ง่วงซึม ในเด็กเล็ก หรือ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ในเด็กโต ซึ่งสอดคล้องกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ ในเด็ก
3. ความถี่และรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์ ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง หรือเข็มกระตุ้น เมื่อเทียบกับหลังเข็มแรก บ่งชี้ถึงข้อดีของการฉีดวัคซีนหลายเข็ม
4. เด็กกลุ่ม 6-36 เดือน มีอาการไม่พึงประสงค์คล้ายกับเด็กกลุ่ม 37 เดือน ถึง 5 ปี ชี้ให้เห็นว่าวัคซีนมีความปลอดภัยใกล้เคียงกันในทุกช่วงอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี
5. อาการข้างเคียงเหล่านี้เป็นเรื่องปกติของการตอบสนองต่อวัคซีน ไม่ได้เป็นอันตราย และจะหายไปเองได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
ทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ กับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ได้นำเสนอข้อมูลจากการศึกษานี้ โดยตระหนักดีว่าอาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน mRNA เกิดขึ้นได้บ้างในเด็กบางราย
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ อาการปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด, ไข้, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยตามตัว, คลื่นไส้ ซึ่งมักจะหายได้เองใน 1-2 วัน ส่วนผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การแพ้รุนแรง หรือภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือด พบได้น้อยมาก
จากรายงานของศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) พบอัตราเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจากวัคซีนในเด็กอยู่ที่ประมาณ 0.001% หรือ 1 ใน 1 แสนราย ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงในระดับต่ำมาก เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่วัคซีนจะช่วยป้องกันเด็กจำนวนมากจากการติดเชื้อโควิด-19 และเจ็บป่วยรุนแรงได้
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2566 มีเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีทั่วโลกได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว มากกว่า 450 ล้านคนซึ่งเด็กเหล่านี้จะได้รับการป้องกันจากการเจ็บป่วยรุนแรง การนอนโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ในระดับสูง นับเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลจากการฉีดวัคซีน
ปัจจุบันผู้พัฒนาวัคซีน mRNA รุ่นต่าง ๆ ที่ปรับให้ตรงกับสายพันธุ์ย่อยของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กำลังระบาดหนักมาเป็นลำดับ โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้แก้ไขการอนุญาตใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) สำหรับวัคซีนโควิด-19 ของ Moderna ให้รวมถึงสูตร 2566-2567 ด้วย วัคซีนโควิด-19 ของ Moderna
ทั้งนี้ ประกอบด้วย ส่วนประกอบโมโนวาเลนท์ (เพียงสายพันธุ์เดียว) ที่ตรงกับสายพันธุ์ย่อยโอไมครอน XBB.1.5 ของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดยได้รับอนุญาตให้ฉีดได้ในทุกขนาดโดสสำหรับบุคคลอายุ 6 เดือนถึง 11 ปี เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ส่วนวัคซีนโควิด-19 ชนิดไบวาเลนท์ของ Moderna นั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในสหรัฐอีกต่อไป
วัคซีนโควิด-19 ของ Moderna (สูตรปี 2566-2567) องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้อนุญาตให้ใช้ดังนี้
บุคคลอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี
- ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ Moderna (สูตรปี 2566-2567) จำนวน 2 เข็ม โดยเข็มที่สองฉีดห่างจากเข็มแรก 1 เดือน
- ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 ของ Moderna มาแล้ว 1 เข็ม รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ชนิดไบวาเลนท์ของ Moderna: ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ Moderna (สูตรปี 2566-2567) อีก 1 เข็ม ห่างจากเข็มก่อนหน้า 1 เดือน
- ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 ของ Moderna มาแล้ว 2 เข็มขึ้นไป รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ชนิดไบวาเลนท์ของ Moderna: ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ Moderna (สูตรปี 2566-2567 ) อีก 1 เข็ม ห่างจากเข็มล่าสุดอย่างน้อย 2 เดือน
บุคคลอายุ 5 ปีถึง 11 ปี ไม่ว่าจะมีประวัติการได้รับวัคซีนมาก่อนหรือไม่
ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ Moderna (สูตรปี 2566-2567 ) เพียง 1 เข็ม หากเคยได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดใดมาก่อน ให้ฉีดห่างจากเข็มล่าสุดอย่างน้อย 2 เดือน
บุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อายุ 6 เดือนถึง 11 ปี
ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 3 เข็ม ห่างกันครั้งละ 1 เดือน โดยอย่างน้อย 1 เข็มควรเป็นวัคซีนโควิด-19 สูตรปี 2566-2567
ผู้ปกครองที่จะนำเด็กไปฉีดวัคซีนสามารถปรึกษาแพทย์ถึงรายละเอียดของแต่ละวัคซีนเพื่อให้ได้รับข้อมูลล่าสุด
การมีวัคซีนที่ออกแบบมาเพื่อสายพันธุ์เฉพาะ ทั้งแบบโมโนวาเลนท์และไบวาเลนท์ ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญ ที่จะช่วยปกป้องประชากร โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างเด็กเล็ก จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ ขณะเดียวกันก็ยังให้ภูมิคุ้มกันพื้นฐานต่อสายพันธุ์ดั้งเดิมด้วย ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสรุป วัคซีน mRNA ทั้งแบบโมโนวาเลนท์และไบวาเลนท์ ที่ปรับให้ตรงกับสายพันธุ์โควิด-19 ที่ระบาด นับเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโควิดในเด็กเล็ก โดยมีความปลอดภัยสูงและให้การป้องกันโรคที่ครอบคลุม
การนำวัคซีนเหล่านี้มาใช้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง จะเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องเด็กนับร้อยล้านคนทั่วโลก จากอันตรายของโควิด-19 ท่ามกลางการระบาดใหญ่ครั้งนี้ที่ยังคงดำเนินต่อไป
การตัดสินใจนำบุตรหลานไปรับวัคซีนยังคงอยู่ในดุลยพินิจของผู้ปกครอง ซึ่งควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ รอบด้าน และปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัย เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพของเด็ก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอยง’ แนะวิธีปฏิบัติตัว เมื่อโควิด-19 ความรุนแรงเท่าไข้หวัดใหญ่-RSV
- ‘ดร.อนันต์’ ชี้โควิด-19 เกิดมา 4 ปีกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าต้นกำเนิดมาจากไหน
- ‘หมอยง’ อัปเดต 4 แนวทางการปฏิบัติ เมื่อโควิด-19 ลดความรุนแรงลง
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx
