จับตา “โอไมครอน JN.1” อย่างใกล้ชิด หลังพบหลบภูมิเก่ง ติดง่าย อาจกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอนาคต
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า กำลังติดตามโอไมครอน JN.1 ( B.1.1.529.2.86.1.1) อย่างใกล้ชิด
การอุบัติขึ้นของโอไมครอน BA.2.86 หรือ “Pirola” ถูกตรวจพบครั้งแรกในเดนมาร์กในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 ได้ดึงดูดความสนใจของนักวิจัยทั่วโลก ในแง่ที่พบส่วนหนาม (spike)มีการกลายพันธุ์สูง มากกว่า 30 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับโอไมครอน XBB.1.5 และพบในหลายประเทศพร้อมกันทั่วโลกในสองเดือนผ่านมา
JN.1 อาจระบาดกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอนาคต
หลายฝ่ายเริ่มคลายกังวล เมื่อไม่พบข้อมูลทางคลินิกที่บ่งชี้ว่าการติดเชื้อโอไมครอน BA.2.86 จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงยิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถแข่งขันกับโอไมครอนกลุ่มย่อย XBB* ที่เป็นสายพันธุ์หลักอยู่ในปัจจุบันได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มของ “FLip” ที่มีการกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว
แต่เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นักวิจัยได้ตรวจพบรุ่นลูกของโอไมครอน BA.2.86 ที่มีการกลายพันธุ์สะสมเพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น พร้อมไปกับการจับกับผิวเซลล์ได้อย่างมั่นคงขึ้น เช่นที่ตำแหน่ง “L455S” เกิดเป็นสายพันธุ์ย่อยที่ถูกตั้งชื่อว่า “JN.1” ที่อาจเกิดการแพร่ระบาดกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอนาคต
ศูนย์จีโนมฯ กำลังติดตามโอไมครอน “JN.1” อย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เสี่ยงไข้หวัดนก! สธ.แจ้งด่วน ฟาร์ม-สนามไก่ชน พบสัตว์ปีกป่วยตาย ห้ามนำมารับประทานเด็ดขาด
- เตรียมพร้อมรับมือ ‘โอไมครอน’ รุ่น 3 สายพันธุ์หลัก HV.1 และ รุ่น 4 BA.2.86 ลูกหลานสายพันธุ์ย่อย
- WHO เผย ป่วยโควิดลดลงทั่วโลก แต่ผู้ป่วยวิกฤตเข้าไอซียู กลับเพิ่มมากขึ้น 18% ชี้โควิดยังรุนแรง