สธ. เผยเปิดเทอม เริ่มพบโควิดระบาด ในกลุ่มเด็กประถม ย้ำครูหากนักเรียนป่วยให้หยุดเรียน พร้อมเฝ้าระวังเข้มข้น
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า ปัจจุบันผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในสัปดาห์ที่ 20 (วันที่ 14 – 20 พฤษภาคม 2566) พบจำนวนผู้เสียชีวิต 64 ราย เฉลี่ยวันละ 9 ราย ส่วนใหญ่อายุมาก 70 ปีขึ้นไป และไม่ยอมรับวัคซีน
ป่วยหนัก–เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ไม่ได้รับวัคซีน
กลุ่มผู้ป่วยอาการรุนแรงเป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 401 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 226 ราย ซึ่งมักไม่ได้รับวัคซีน และยังพบการระบาดลักษณะเป็นกลุ่มก้อนในกลุ่มวัยทำงาน นักเรียน และในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น
มีการกระจายของผู้ป่วยในหลายจังหวัด จังหวัดที่ยังคงพบผู้ป่วยได้สูงที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร รองลงมา ได้แก่ ชลบุรี สมุทรสาคร ส่วนกลุ่มผู้ป่วยอาการรุนแรง พบว่า เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปี และส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือบางรายพบฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม แต่ยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันหมู่ในประชากรลดลงมาก
สายพันธุ์ที่พบการระบาดเป็นสายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์ย่อยอื่นจากต่างประเทศ มีการระบาดเพิ่ม ทั้งในเมืองและชนบท ตามมาด้วยจำนวนผู้ป่วยอาการหนักที่เพิ่มมากขึ้น
เปิดเทอมเริ่มพบการระบาดในกลุ่มเด็กประถม
ในระยะนี้หลังเปิดภาคเรียนพบการระบาดในกลุ่มเด็กนักเรียน โดยเฉพาะชั้นประถมศึกษา ต้องขอความร่วมมือให้ครูประจำสถานศึกษาเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคในโรงเรียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
หากพบเด็กนักเรียนป่วยจำนวนมาก อาจให้มีการหยุดเรียนเป็นรายห้องเรียน หรือชั้นเรียน โดยไม่จำเป็นต้องปิดโรงเรียน และแจ้งสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ หรือศูนย์บริการสาธารณสุข ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการสอบสวนควบคุมโรคโดยเร่งด่วน
ย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคล
ด้าน นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า แม้โรคโควิด 19 จะแพร่ระบาดมากว่า 3 ปี แต่ขอย้ำว่าการป้องกันตัวเองส่วนบุคคล ยังคงเป็นมาตรการป้องกันการรับและแพร่เชื้อได้อยู่
โดยเน้นย้ำการใส่หน้ากากอนามัยในที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ล้างมือบ่อย ๆ และเข้ารับวัคซีนโดยเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเสี่ยงตาย 608 ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีน สำหรับประชาชนผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แนะนำให้เข้ารับ LAAB ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ได้ที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลภาครัฐสังกัดอื่น
ทั้งนี้ หากมีอาการป่วยให้ตรวจ ATK และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น กลุ่ม 608 หากป่วยและผลตรวจ ATK เป็นบวก ให้รีบเข้ารับการรักษา เน้นให้ทุกสถานพยาบาลเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งส่งตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อโค วิด 19 ในผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตาโอไมครอนรุ่นหลาน ‘FU.1’ ทั่วโลกร่วมมือติดตาม เหตุแพร่เร็วกว่า ‘XBB.1.16’ 50% ไทยพบแล้ว 1 ราย
- ข่าวบิดเบือน อย่าแชร์! อย.มะกัน สั่งเพิ่มคำเตือน ‘เสี่ยงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ’ บนฉลากวัคซีนไฟเซอร์-โมเดอร์นา
- สธ. แจง 4 ข้อ หลัง ‘เพจชมรมแพทย์ชนบท’ พาดพิง ‘ทุจริตวัคซีน-ATK’