COVID-19

‘หมอยง’ คาดพบผู้ติดเชื้อโควิดยอดพุ่ง หลังเลือกตั้ง-เปิดเทอม

“หมอยง” ชี้สถานการณ์โควิดไทย แนวโน้มติดเชื้อโควิดเพิ่มหลังเปิดเทอม เลือกตั้ง ฤดูฝน เมื่อเข้าสู่โรคประจำฤดูกาล

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต และหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจ Yong Poovorawan  เรื่อง โควิด 19 การระบาดมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยระบุว่า

ติดเชื้อโควิด

โรคโควิด 19 ได้ปรับตัวเป็นโรคประจำฤดูกาล และสำหรับประเทศไทยจะเริ่มระบาดเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน โดยเฉพาะในช่วงนักเรียนเปิดเทอมแรก

ในปีนี้ประกอบกับมีการหาเสียงเลือกตั้ง มีการรวมคนหมู่มาก โอกาสที่จะแพร่กระจายได้มาก โรคจะพบมากขึ้น ในปลายเดือนนี้หลังเลือกตั้ง และนักเรียนเปิดเทอมแล้ว

สายพันธุ์ที่พบขณะนี้ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็น XBB โดยเฉพาะ XBB.1.5 ได้เข้ามาแทนที่สายพันธุ์ที่ระบาดตั้งแต่ต้นปีมาคือ BA.2.75 แล้ว

แต่สายพันธุ์ทั้งหมดก็ยังเป็นลูกหลานของ โอไมครอน โดยที่สายพันธุ์ไหนติดได้ง่ายกว่า หลบหลีกภูมิต้านทานได้เก่งกว่าก็จะเข้ามาแทนที่

หมอยง

สายพันธุ์ดาวดวงแก้ว XBB.1.16 ก็ยังพบน้อยมาก ทุกสายพันธุ์ที่กระจายทั่วโลกขณะนี้ ความรุนแรงของโรคลดลงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม (มากกว่า 90%)

ผู้ที่เป็นรุนแรงหรือเสียชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยงหรือที่เราเรียกว่า 608
วัคซีนที่มีอยู่ขณะนี้ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้

ดังนั้นกลุ่มเสี่ยง เปราะบาง ควรจะได้รับวัคซีนป้องกัน และให้ถือเป็นวัคซีนประจำฤดูกาลที่จะต้องฉีดก่อนเข้าสู่ฤดูฝนคือในเดือนนี้ เช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยสามารถให้พร้อมกันได้โดยฉีดกันคนละตำแหน่งหรือคนละข้างแขน

วัคซีนที่ใช้อยู่ขณะนี้ ถ้าเป็น mRNA วัคซีน จะเป็นชนิด 2 สายพันธุ์ bivalent คือสายพันธุ์ดั้งเดิม อู่ฮั่น รวมกับ โอไมครอน

LINE ALBUM วัคซีนโควิดรพ.สนาม ๒๒๐๓๑๐

ที่ใช้อยู่ในบ้านเราถ้าเป็นไฟเซอร์ก็จะเป็น BA.1 ส่วนของ Moderna ก็จะเป็น BA.5 โดยของ Moderna จะมีปริมาณ RNA เพียงครึ่งหนึ่ง (50 mcg) ของวัคซีนสายพันธุ์เดี่ยวที่เราเคยใช้ในอดีต (100 mcg)

ในบุคคลที่แข็งแรงดีและมีอายุน้อยกว่า 60 ปี การฉีดวัคซีนเป็นไปตามความสมัครใจ เพราะความรุนแรงของโรคจะน้อยกว่ากลุ่มเสี่ยง 608

ในที่สุดในระยะเวลาอันใกล้นี้เชื่อว่า องค์การอนามัยโลก คงจะเลิกนับจำนวนผู้ที่ติดเชื้อ เพราะตัวเลขที่รายงานเข้าสู่องค์การอนามัยโลก ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก

ขณะที่ของประเทศไทยก็ไม่ได้นับจำนวนผู้ที่ติดเชื้อแล้ว นับเฉพาะผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และผู้ที่เสียชีวิต จำนวนผู้ที่ติดเชื้อมีมากกว่าจำนวนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลายสิบเท่า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo